ดร.อ๊อดลุย! จี้DSIฟันสารเคลือบเครื่องยนต์ยี่ห้อฉาว

ดร.อ๊อดลุย! จี้DSIฟันสารเคลือบเครื่องยนต์ยี่ห้อฉาว

จี้เป็นคดีพิเศษ! "ดร.อ๊อด" นำผู้เสียหายจากสารเคลือบเครื่องยนต์ยี่ห้อฉาว ร้อง "ดีเอสไอ" รับสอบสวนขยายผลสารเคมีอันตราย ใช้แล้วเครื่องพัง-มีสารก่อมะเร็ง หลอกลวง เป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ โฆษณาเกินจริง

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) - 16 ต.ค.60 รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออ.อ๊อด อาจารย์ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนายวินิจจัย ชลานุเคราะห์ สื่อมวลชนสายยานยนต์ พร้อมผู้เสียหายจากสารเคลือบเครื่องยนต์ ยี่ห้อหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือขอให้ดีเอสไอรับสอบสวนกรณีผู้ประกอบการสารเคลือบเครื่องยนต์นำสินค้าไม่มีคุณภาพโฆษณาเกินจริง และใช้สารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายเป็นส่วนประกอบจนทำให้รถยนต์เสียหาย โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปรามและสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไว้แล้ว แต่ต้องการให้ดีเอสไอ ซึ่งมีกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค รับสอบสวนคดีในภาพรวม โดยมีพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับคำร้อง พร้อมระบุว่าจะเร่งตรวจสอบรายละเอียดในคำร้องว่าเข้าองค์ประกอบความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคและพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งเป็นความผิดแนบท้ายกฎหมายสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ นอกจากนี้จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมไปยังสคบ.และกองปราบ ก่อนเสนอให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ด้านอาจารย์วีรชัย กล่าวว่า หลังจากกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ที่สคบ. โดยสคบ.สั่งให้ยกเลิกการใช้ฉลากผลิตภัณฑ์ไม่ถูกต้อง แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตราย ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังวางจำหน่ายอยู่ทั่วประเทศ โดยสารอันตรายดังกล่าวเบื้องต้นพบว่ามีสารก่อมะเร็งและเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม หากใช้แล้วจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายรุนแรง พร้อมขอให้ดีเอสไอขยายผลตรวจสอบไปถึงการนำเข้า ละครอบครองสารเคมีตามที่ผู้ผลิตกล่าวอ้างว่านำเข้าจากอเมริกาและออสเตรเลีย เนื่องจากภาคประชาชนตรวจสอบพบว่ามีการซื้อสารเคมีจากในประเทศไม่ใช่การนำเข้า สำหรับวัตถุอันตรายซึ่งเป็นส่วนประกอบในสารเคลือบเครื่องยนต์ กรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่าไม่ใช่น้ำมันจึงเป็นผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถจดทะเบียนขายเป็นน้ำมันได้ จึงต้องการเรียกร้องให้ภาครัฐตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้ผู้ใช้รถและประชาชนทั่วไปได้รับผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายทั่วประเทศ

ด้านนายวินิจจัย กล่าวว่า สารเคลือบเครื่องยนต์ดังกล่าวเมื่อใช้ไปแล้วจะส่งผลให้เพลงข้อเหวี่ยง ก้านสูบ ลูกสูบพัง เบื้องต้นพบว่าเป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมโลหะ เมื่อถูกความร้อนภายในห้องเครื่องจะเผาไหม้ ละลายรวมกับกรดเกลือ สนิม และพาราฟิน จับตัวเป็นก้อนแข็งครูดกับก้านสูบและลูกสูบ แหวนน้ำมันละลายจมไปในลูกสูบ น้ำมันเครื่องไม่สามารถเข้าไปในลูกสูบ ส่งน้ำมันไปเลี้ยงฝาสูบได้น้อยลง เครื่องยนต์ไหม้ ปกติหากจะนำสารดังกล่าวไปใช้จะต้องนำไปสกัดคลอรีนออก หรือนำไปผสมในปริมาณจำกัด แต่ผู้จำหน่ายสารเคลือบเครื่องยนต์ดังกล่าวกลับนำสารเคมีไปกรอกใส่ขวดขายเลย ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์

ภาพจาก - facebook.com/phutdhawong