ค่าบาท ​'แข็งค่า' หลังเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มน้อย

ค่าบาท ​'แข็งค่า' หลังเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มน้อย

บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าทรงตัวที่ "33.04 บาทต่อดอลลาร์" รับแรงหนุนเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มน้อย และในสัปดาห์นี้จับตาตัวเลขศก. สหรัฐและจีน

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.04บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าทีระดับ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดท้ายสัปดาห์ก่อน

ฝั่งเงินเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวตามแนวโน้มของสกุลเงินเอเชียที่ได้รับแรงหนุนจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสหรัฐ นอกจากนี้แรงขายของผู้ส่งออกเอง ก็เป็นแรงกดดันให้เงินบาทในช่วงนี้แข็งค่าขึ้นด้วย

ในสัปดาห์นี้สิ่งที่น่าจับตาคือ ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมูนิสต์จีน และการประชุมสภายุโรปในวันศุกร์

ในฝั่งของสหรัฐ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. (Industrial Production) ในวันอังคาร คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.30% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เป็นการเติบโตที่ช้าลงเพราะปัญหาพายุเฮอริเคน อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสจะมีรายงานผลสำรวจภาคอุตสาหกรรมของฟิลาเดลเฟียเฟด (Philadelphia Fed manufacturing index) ซึ่งคาดว่าจะยังอยู่ในระดับ 22 จุด (เหนือ 0 ถือว่าเติบโต) ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งอยู่

ในวันพุธ จะมีการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งน่าจะมีการแถลงนโยบายทั้งในมุมของเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า หลายฝ่ายยังมองว่าจีนจะคงนโยบายขยายเศรษฐกิจที่ระดับปัจจุบัน (6-7%) และอาจมีการแก้กฏเพื่อให้นายสีจิ้นผิงสามารถอยู่ในตำแหน่งได้นานกว่า 2 สมัย ซึ่งจะสร้างเสถียรภาพให้การเมืองจีนในอีก 10ปีข้างหน้า

และถัดมาวันพฤหัส จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีน ตลาดคาดว่าจีดีพีจะยังขยายตัวที่ 6.8% (เทียบรวมทั้ง 3 ไตรมาสนี้กับสามไตรมาสก่อน) ค้าปลีกชะลอตัวที่ 10.3% การลงทุนสินทรัพย์คงทนขยายตัว 7.7% ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะเติบโต 6.7% ชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังคงไม่มีปัญหาในระยะสั้น

กรอบเงินดอลลาร์รายวัน 33.0.2 - 33.12 บาท/ดอลลาร์ กรอบเงินดอลลาร์รายสัปดาห์ 32.80 - 33.30 บาท/ดอลลาร์