หนุ่มเมืองผู้ดีเจอสาวขอเงิน คาดคิดมากหัวใจวาย

หนุ่มเมืองผู้ดีเจอสาวขอเงิน คาดคิดมากหัวใจวาย

หนุ่มเมืองผู้ดีทิ้งเมียไทย กลับเจอสาวไหม่ขอเงินจำนวนมาก คาดคิดมากหัวใจวายตาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม พ.ต.ต.หนิม พลชม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุ มีชาวต่างชาติ เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้านพักเลขที่ 49/101 หมู่ 5 ซอยสุขใจพัฒนา ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงออกไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพนายโรนอล เจมส์ เดวิส อายุ 78 ปี ชาวอังกฤษ นอนเสียชีวิตบนเตียงนอนภายในห้องนอน สภาพศพนอนหงายนุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ไม่สวมเสื้อ จากการชันสูตร ตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย แพทย์สันนิษฐานการเสียชีวิตเบื้องต้นจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่จะนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

นางปภานิจ เดวิส อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลข ที่248/5 หมู่ 8 ตำบลกุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี อดีตภรรยาให้การว่า แต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมา 15 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ระยะแรกผู้ตายรักแ ละรับผิดชอบครอบครัวดี แต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผู้ตายไปติดพันหญิงอื่นซึ่งอายุน้อยกว่าตน ก่อนมาขอแยกทาง หลังแยกทางกันจึงกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ แต่ยังขับรถมาดูแลสามี และลูกๆ แบบไปเช้าเย็นกลับทุกวัน ระยะหลังผู้ตายได้บ่นให้ฟังว่า หญิงคนใหม่ที่ไปติดพันขอเงินพิเศษนอกเหนือจากเงินประจำที่ให้ คราวละมาก ๆ แต่ก็ให้ไปทุกครั้ง และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มาขอเงิน 1 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า ทางบ้านของเขามีปัญหาเรื่องเงิน ทำให้ผู้ตายกลุ้มใจคิดมาก ไม่ยอมกินข้าวกินปลา ตนได้แต่ปลอบใจเท่านั้น และก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ตายใช้ให้ตนไปโอนเงินให้หญิงคนดังกล่าว 1 หมื่นบาท ตนได้ทำตามผู้ตายสั่ง

ก่อนเกิดเหตุ เย็นวานนี้ตนมาได้ทำกับข้าวให้ผู้ตาย และลูกกิน แล้วกลับบ้าน พอรุ่งเช้าลูกชายคนเล็กได้โทรมาบอกว่า ได้เข้าไปในห้องพ่อ เพื่อหยิบเอาเงินที่พ่อวางไว้ให้ลูกบนโต๊ะทุกวัน แต่พบว่าพ่อนอนไม่หายใจอยู่บนเตียงจึงรีบขับรถมาดู พร้อมกับแจ้งตำรวจ ซึ่งตนคิดว่าสามีคิดมากและตรอมใจเรื่อง ที่ต้องหาเงินให้กับผู้หญิงนั้น

ด้านตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะคิดมากไม่ยอมกินข้าว ประกอบกับมีอายุมาก ทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเสียชีวิตในที่สุด โดยแพทย์ได้ให้นำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริง จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และประสานสถานทูตอังกฤษ เพื่อติดต่อญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี