'ถาวร' จี้รัฐเร่งปฏิรูป 3 เรื่องก่อนเลือกตั้ง

'ถาวร' จี้รัฐเร่งปฏิรูป 3 เรื่องก่อนเลือกตั้ง

"อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ " จี้รัฐบาลเร่งปฏิรูป 3 เรื่องให้เสร็จก่อนเลือกตั้งปีหน้า

นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำกลุ่ม กปปส.กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.กำหนดช่วงเวลาวันเลือกตั้งอยู่ในเดือน พ.ย. 2561 ว่า นักการเมืองคงดีใจที่จะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่สำหรับมวลมหาประชาชนและ กปปส.แล้ว การเลือกตั้งจะมีขึ้นเร็วหรือช้า ก็ไม่มีผลใดๆกับเรา แต่อยากให้รัฐบาบชุดนี้ทำการปฏิรูปประเทศตามที่เคยได้ประกาศไว้ว่า จะปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งเหลือเวลาอีก 1 ปี ก็ควรจะปฏิรูป ให้ได้ 3 เรื่อง จาก 5 เรื่องที่เป็นข้อเสนอของมวลมหาประชาชน คือ 1. การทำพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชนโดยแท้จริง โดยการปราศจากกลุ่มทุนสามานย์ที่ใช้ทุนจากากรทุจริตเพื่อเอาคนของตัวเองเข้าสู่อำนาจเพื่อมาถอนทุนโดยการทุจริตคอร์รัปชัน หรือการขจัดพรรคการเมืองที่ยังเป็นทาสรับใช้ของทุนสามานย์ ซึ่งการระบุให้ใช้มีไพรมารี่โหวต ยังไม่พอ ต้องไปเขียนในกฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมายหลาน ระบุเจาะจงให้ชัดเจนในการตรวจสอบแหล่งที่มาเงินทุนเหล่านี้ เพื่อตรวจสอบถึงแหล่งเงินทุนของกลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไม่ให้นายทุนสามานย์เข้ามาเป็นเจ้าของพรรค หรือทำตัวเป็นนายทาส ส.ส.

2. การปฏิรูปตำรวจ ต้องเป็นการปฏิรูปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ปฏิรูปเพื่อประโยชน์ของตำรวจ เพราะเท่าที่เห็น การเอาพล.อ. บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ มาเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และตำรวจของรัฐบาลคสช. แต่กรรมการกลับเป็นตำรวจทั้งหมดก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างขององค์กรตำรวจเพื่อประโยชน์ของประชาชนที่แท้จริงได้ แต่ควรจะฟังความเห็นของประชาชน นักวิชาการ เช่น พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ นายวิทยา แก้วภารดัย อดีต สปท. การปฏิรูปที่ทำอยู่ขณะนี้ กล่าวได้ว่าหมดหวัง แต่เวลา 1 ปี ที่เหลือ ยังสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ ยังไม่สาย อยู่ที่ความจริงใจว่า จะทำหรือไม่

3. การปฏิรูปการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน แม้ขณะนี้จะมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลอาญาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งสามารถพิจารราคดีลับหลักผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีได้ แต่ควรมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้ประชาชนในฐานะเจ้าของเงินภาษีสามารถเป็นโจทก์ฟ้องร้องคดี การทุจริตได้ ในฐานะที่ประชาชนเป็นผู้เสียหายโดยตรงในคดีการทุจริตทุกเรื่อง และเป็นคดีที่ไม่มีอายุความ รวมถึงการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น ไม่ใช่ทำรัฐประหารแล้วกลับรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางและภูมิภาค แต่ส่วนท้องถิ่นกลับถูกยึดอำนาจลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะด้านการคลัง และการใช้งบประมาณ การกล่าวอ้างว่าส่วนท้องถิ่นมีการทุจริตมาก ทั้งที่ส่วนกลางและภูมิภาคก็มีการทุจริตคอร์รัปชันเช่นกัน ถ้ากฎหมายปราบโกงกำหนดให้คดีทุจริตไม่มีอายุความ และประชาชนสามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ คดีทุจริตเหล่านี้จะลดลง

"ดังนั้นการที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 61 ผมถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากเลือกตั้งไปโดยที่ยังไม่มีการปฏิรูปให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง ก็คาดได้ว่าการเมืองจะกลับเข้าสู่วงจรอุบาทก์ ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม จะเกิดเผด็จการรัฐสภาโดยเสียงข้างมาก จะละเลยหลักนิติรัฐ นิติธรรม โดยอ้างว่าเขาได้รับเสียงสวรรค์มาจากประชาชน มีสิทธิ์ทำทุกเรื่อง ถูกต้องเพราะผ่านฉันทามติประชาชนมาแล้วเหมือนที่เคยเป็นมา จึงขอให้ คสช.ทบทวน และเร่งปฏิรูปอย่างน้อย 3 เรื่อง อย่างที่ผมเสนอ ในเวลา 1 ปี ถ้าตั้งใจจริงสามารถทำทันได้ มิเช่นนั้นแล้วการรัฐประหารครั้งนี้ก็จะเสียของ สูญเปล่า เหมือนครั้งที่ผ่านมาเสียโอกาสประเทศ" นายถาวร กล่าว