ราคาน้ำมันดิบปิดทะยาน2%

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดตลาดวันอังคาร(10ต.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานขึ้น 2% ใกล้แตะระดับ 51 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียทำการปรับลดการส่งออกน้ำมัน ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดใกล้เข้าสู่ภาวะสมดุล หลังจากเผชิญปัญหาน้ำมันล้นตลาดเป็นเวลาหลายปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.7%  ปิดที่ราคา 50.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 56.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียทำการปรับลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 560,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ย. ตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิต

ขณะเดียวกัน การที่โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของสหรัฐยังคงปิดทำการในช่วงที่พายุเฮอร์ริเคนเนทพัดกระหน่ำชายฝั่งสหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาน้ำมัน

โอเปกและรัสเซีย รวมทั้งผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายประเทศ ได้ปรับลดกำลังการผลิตรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด

โอเปก มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ตลาดกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะสมดุล โดยได้แรงหนุนจากความร่วมมือกันลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน รวมทั้งจากการที่อุปสงค์โลกอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก เรียกร้องให้ผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานในสหรัฐให้การสนับสนุนแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปก เพื่อให้ตลาดอยู่ในภาวะสมดุล

ทั้งนี้ การขุดเจาะน้ำมันจากชั้นหินดินดานในสหรัฐ ส่งผลให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 10% ในปีนี้ ถึงแม้โอเปกและรัสเซียได้พยายามปรับลดกำลังการผลิตก็ตาม

ราคาน้ำมันทรุดตัวลงจากใกล้ระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนมิ.ย.2557 จากอุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาด, การแข็งค่าของดอลลาร์ และการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินแดานที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนายบาร์คินโด กล่าวว่า โอเปกอาจถูกบังคับให้ดำเนินมาตรการพิเศษในปีหน้า เพื่อทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะสมดุล