Retail Market Monitor (5 ต.ค.60)

บรรยากาศการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์เสี่งทั่วโลกโดยรวมยังเป็นบวก ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) แกว่งตัวลดความร้อนแรงผ่านการทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่ที่ขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มไฟฟ้ายังแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานขนาดกลางถึงเล็กเริ่มกลับมาถูกผลักดันสลับ ขณะที่หุ้นที่พื้นฐานอ่อนแอ เริ่มมีแรงทำกำไรเปลี่ยนตัวเพื่อหมุนไปหาผลตอบแทนในหุ้นอื่น ความผันผวนของดัชนีทำให้นักลงทุนใน TFEX อาจต้องเพิ่มความระวัง ขณะที่ยังสามารถเลือกเก็งกำไรรายตัวแบบตั้งจุดตัดขาทุน ทั้งนี้การอ่อนตัวเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นพลังงาน ธนาคาร และกลุ่มได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศฟื้นตัว

Investment Theme 1) การลดภาษีสหรัฐ ดีต่อ IVL TU CPF 2) หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคายัง  Laggard เช่น PTT BANPU SCC CPALL CPF SCB BLA* CK KCE BDMS และ 3) หุ้นที่โมเมนตัมช่วงสั้นเป็นบวก KCAR*, TK*, JWD*, ILINK*, TWPC*, MC*, LOXLEY*, TPOLY*, SINGER*, SAPPE*, SF*, DEMCO*, MILL*, BR*, PTG*, SLP*

ภาพรวมกลยุทธ์: การผ่าน 1671 ทำให้ตลาดมีโมเมนตัมเดินหน้าขึ้นทดสอบ 1690-1700 การแกว่งตัวลดความร้อนแรงไม่ส่งผลต่อการเก็งกำไรระยะสั้นหากดัชนีไม่ลดต่ำกว่า 1677 จุด  // หุ้นแนะนำ ACAP*, VNG*, MILL*

แนวรับ : 1684 / แนวต้าน : 1690-1700 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

 

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนแม้ EIA จะรายงานสต๊อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด / ราคาโลหะปรับขึ้นจากภาวะอุปทานที่ชะลอตัว / ราคาสินค้าเกษตรทรงตัว / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,320.00 จุด (+0.92%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 99.00 เหรียญต่อตัน (+2.06%)

สุนทรพจน์ประธานเฟด - ไม่มีการกล่าวถึงรายละเอียดของนโยบายการเงินหรือการแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่เน้นย้ำถึงกฎระเบียบและการกำกับดูแลภาคธนาคารที่เฟดดำเนินการมาตลอดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเงินปี 51 ว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้วและไม่ได้ทำให้ภาคธนาคารต้องแบกรับภาระมากเกินไป

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ – ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 135,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 11 เดือนจากอิทธิพลของพายุเฮอร์เคน แต่ยังมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 125,000 ตำแหน่ง / ดัชนีภาคบริการจาก ISM เดือน ก.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.8 มากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และสูงสุดในรอบกว่า 12 ปี

ECF (Not rated) – หุ้นจะขึ้น XW ของ ECF-W2 และ ECF-W3 ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังเนื่องจาก dilution จาก warrant ทั้ง 2 ตัวคือ 23% ขณะที่หากรวมการเพิ่มทุนแบบทั่วไป (RO และ PP) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จะคิดเป็น dilution ต่อกำไรถึง 45%

ถ่านหิน – SCC เตรียมลงนามซื้อถ่านหินสหรัฐฯ 1.55 แสนตัน ทดแทนการซื้อจากอินโดนีเซีย กดดันช่วงสั้นต่อราคาหุ้นถ่านหิน อย่างไรก็ตามปริมาณดังกล่าวคิดเป็นเพียง 0.74% ของการนำเข้าถ่านหินทั้งปีที่ราว 21 ล้านตัน ซึ่งไม่กระทบอย่างมีสาระสำคัญ โดยเฉพาะกับผู้จำหน่ายถ่านหินรายย่อยในประเทศ โดยเฉพาะ AGE (Not rated) ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้น โดยเฉพาะหลังการหยุดดำเนินธุรกิจชั่วคราวของ EARTH (Not rated) ที่เป็นผู้เล่นใหญ่สุดในตลาดดังกล่าว

 

ประเด็นติดตาม: 6 ต.ค. – ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ (Employment report) / 20 ต.ค. – ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 กลุ่มธนาคาร