ตำรวจสำโรงเหนือ บุกทลายแก๊งโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ ยึดรถโจรกรรมมาได้เกือบสิบคัน
ที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก. พ.ต.อ.เดโช โสสุวรรณากุล ผกก.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม4 ผู้ต้องหาแก๊งโจรกรรมรถยนต์และปลอมแปลงเอกสารทางราชการ (ตีตัวเลขใหม่สวมทะเบียน) ประกอบด้วย นายภัทรชัย หรือเซ็น อารีสวัสดิ์ อายุ26ปี นางสาววรรณวิภา หรือวิว อรอินทร์ อายุ20ปี นายทัตธน หรือรวย สุภาพันธ์ อายุ52ปี และนายปริญญา หรือหนึ่ง ชูทรัพย์ อายุ36ปี พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งจำนวน8คัน ที่ได้ตระเวนก่อเหตุโจรกรรมมาจากสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อ ฮอนด้า พร้อมอุปกรณ์ในการก่อเหตุ ประเภท เหล็กแหลมด้ามตัวที่ ที่ใช้ไขกุญแจประตูและไขสตาร์ทรถ เหล็กแม่พิมพ์ตัวเลขที่ใช้สำหรับตอกตัวเลข ตัวถังและเครื่องยนต์ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ สมุดบัญชีธนาคารต่าง ๆ จำนวน4เล่ม โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่อู่ซ่อมรถย่านถนนสุวินทวงศ์ เขตมินบุรี กทม.
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่13กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายได้ไปก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ซิตตี้ สีบอร์นเงิน ทะเบียน กร8501เชียงใหม่ ที่จอดอยู่หน้าอาคารสันติอพาร์ทเม้นท์ ภายในซอยแบริ่ง48หมู่1ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าชุดสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ ได้กระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวโดยสังเกตจากรถที่คนร้ายขับมาก่อเหตุและแกะลอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ต่าง ๆ จนกระทั้งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายภัทรชัย ซึ่งรูปพรรณสันนิฐานและใบหน้าตรงกับภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกเอาไว้ได้ในขณะลงมือก่อเหตุ กำลังขับรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน6กด-8643กทม. ที่หน้ากระจกติดสติกเกอร์ภาษาอังกฤษMUGENมาจอดที่ข้างรถผู้เสียหายก่อนใช้เหล็กตัวที ไขกุญแจประตูรถและทดลองเปิดประตูดูก่อนถอยหลังรถออกไป ก่อนที่จะกลับรถถอยหลังเข้ามา คนร้ายที่เป็นชายได้ลงมาเกิดประตูรถผู้เสียหายก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ขับหลบหนีออกไป โดยมีคนร้ายอีกคนหนึ่งขับรถตามหลังไป
จากการแกะลอยของเจ้าหน้าที่ตามภาพที่ได้จากกล้อวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายขับรถผู้เสียหายไปจนกระทั้งมาถึงบริเวณหน้าอู่รถแห่งหนึ่งที่อยู่ท้ายซอยสุวินทวงศ์18/1หมู่13แขวงแสนแสบ เขตมินบุรี กทม. ก่อนที่ภาพจะขาดหายไป ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่นายภัทรชัย ได้ขับรถคันที่เอาไปก่อเหตุ ซึ่งจำได้จากสติกเกอร์ที่ติดกระจกหน้ารถ เข้าที่อู่รถดังกล่าวพอดี ก่อนที่นายภัทรชัย จะลงมาจากรถ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ตัวนายภัทรชัย เอาไว้ได้ พร้อมด้วย นางสาววรรณวิภา แฟนสาวซึ่งขับรถอีกคันตามหลังมา และพบว่าอู่ดังกล่าวมีนายนายทัตธน สุภาพันธ์ อายุ52ปี เป็นเจ้าของ จึงได้คุมตัวนายทัตธน เอาไว้และทำการสอบสวน จากการสอบสวนนายทัตธน ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนว่าจ้างให้นายภัทรชัย ซึ่งเป็นเพื่อนกันไปตระเวนโจรกรรมรถมาโดยจะสั่งตามออเดอร์ ที่ตนไปซื้อซากรถมาพร้อมเล่มทะเบียน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อฮอนด้า รุ่นต่าง ๆ หลังได้รถมาก็จะไปว่างจ้างให้นายมานัส หรือดำ ชูอารมณ์ เป็นคนนำรถไปให้นายพิสิษฐ์ ห้อ ป้อ ประทิปจารุพัชร์ นำรถที่โจรกรรมมาได้ไปให้นายมานัส หรือนัด อารมณ์ซีน ทำการลบและตอกหมายเลขเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่ (ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามจับกุม) ก่อนนำไปส่งขายให้นายปริญญา หรือหนึ่ง ชูทรัพย์ อายุ36ปี นำไปขายให้กับเต้นรถมือสองตามต่างจังหวัดและประกาศขายทางโลกโซนเชี่ยน ทั่วไป
ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การรับสารภาพว่า ได้ตระเวนก่อเหตุโจรกรรมรถในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ ปทุมธานี มาแล้วประมาณ13ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานนำกำลังไปจับกุมตัวนายทัตธน และนายปริญญา ได้อู่ดังกล่าว และสามารถตัวยืนรถที่ก่อเหตุมาและทำการสวมทะเบียนได้จำนวน8คันพร้อมของกลางอุปกรณ์ ในการตอกตัวเลขสวมทะเบียนได้จำนวนมาก ก่อนควบคุมตัวและยึดของกลางทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่โรงพัก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป