LH - ซื้อเก็งกำไร

LH - ซื้อเก็งกำไร

ช้าแต่ชัวร์

ประเด็นการลงทุน

ถึงเวลาแล้วที่ราคาหุ้น LH จะปรับตัวสูงขึ้น หนุนโดยแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/60 ที่น่าตื่นเต้น (สูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติกาลเป็นอย่างน้อย), มีความเสี่ยงขาลงต่อการถูกปรับลดประมาณการกำไรปี 2560 น้อยที่สุดในกลุ่มอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัย และแผนธุรกิจเชิงรุกในปี 2561 มูลค่าหุ้นยังไม่ถือว่าแพง โดยปัจจุบัน PER ปี 2560 ของบริษัทอยู่ที่ 13.5 เท่า หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2549-2559 10% เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2560 ที่ประเมินด้วยวิธี SOTP ใหม่ที่ 11 บาท (จากเดิม 10.80 บาท เพื่อสะท้อนมูลค่าการลงทุนที่สูงขึ้นเป็น 4.00 บาทจากเดิม 3.80 บาท) คิดจาก PER กลุ่มฯ ที่ 15 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2549-2559

คาดยอดจองซื้อดีงามแม้ประเมินตารางการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างอนุรักษ์นิยม

แม้จะมีโครงการเปิดใหม่เพียง 3 แห่งในไตรมาส 3/60 (โครงการแนวราบมูลค่ารวม 2.5 พันล้านบาท) เราคาดจอดจองซื้อจะยังน่าพอใจที่ 7 พันล้านบาท สูงขึ้น 12-15% QoQ และ 2-4% YoY เนื่องจากยอดจองซื้อโครงการแนวราบที่แข็งแกร่งมีน้ำหนักมากกว่ายอดจองซื้อคอนโดที่ชะลอตัว แม้มูลค่าโครงการเปิดใหม่ในปี 2560 จะต่ำสุดในรอบสิบปีที่ 11.6 พันล้านบาท เราคาด LH จะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดจองซื้อปี 2560 ที่ 26 พันล้านบาทได้ (สูงขึ้น 9%) เนื่องจากคาดจอดจองซื้อเก้าเดือนแรกของปี 2560 จะสูงถึง 20 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และคิดเป็น 78% ของเป้าหมาย อีกทั้งมีโอกาสที่จะเห็นยอดจองซื้อสูงทะลุเป้า เนื่องจากการเปิดตัวโครงการในไตรมาส 4/60 จะสูงที่สุดในปีนี้ที่ 4.4 พันล้านบาท (โครงการแนวราบ 2.6 พันล้านบาท, คอนโด 1.8 พันล้านบาท)

คาดกำไรไตรมาส 3/60 จะออกมาอย่างน่าประทับใจ

คาดกำไรหลักไตรมาส 3/60 จะกระโดดสูงขึ้นอย่างน้อย 30% YoY และทรงตัว QoQ แม้กำไรหลักไตรมาส 2/60 ทำจุดสูงสุด อีกทั้งมีโอกาสที่รายได้จากการขายอสังหาฯ ไตรมาส 3/60 จะสูงพอๆกับจุดสูงสุดที่ 9.2 พันล้านบาทในไตรมาส 2/60 หนุนโดยยอดขายโครงการแนวราบไปได้สวย และมูลค่าคอนโดในมือที่รอรับรู้รายได้บางส่วนมาจากโครงการ 333 Riverside และ The Bangkok Sathorn และการเริ่มโอนโครงการ The Key Charoen Rat นอกเหนือจากนี้ กำไรจากที่ LH ขายหุ้น LHBANK จะหนุนกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 เราคาดกำไรหลักสำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2560 จะคิดเป็นประมาณ 80% ของประมาณการทั้งปี 2560 ของเรา (สูงที่สุดในกลุ่มฯ)

บริษัทน่าจะมีนโยบายการเปิดตัวโครงการเชิงรุกในปี 2561

แม้รายได้จากโครงการคอนโดในปี 2561 อาจชะลอตัว (เราคาดลดลง 20%) BLS และตลาดประเมินอย่างอนุรักษ์นิยมว่ากำไรหลักปี 2561 จะทรงตัว อย่างไรก็ตาม LH อาจสรางความประหลาดใจเชิงบวกให้กับเราหากบริษัทรุกการเปิดตัวโครงการแนวราบในปี 2561 (เราคาดมูลค่าโครงการเปิดใหม่รวมจะมากขึ้นเท่าตัว YoY) ซึ่งจะหนุนให้ยอดขายเติบโตอย่างน้อย 10% โดยจะกลบผลจากที่รายได้จากโครงการคอนโดลดลงได้หมด อีกทั้ง LH อาจเร่งการก่อสร้างโครงการ The Bangkok Sukhumvit 55 (โครงการมูลค่า 4 พันล้านบาท) ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเริ่มโอนโครงการได้ในไตรมาส 4/61 (จากเดิมไตรมาส 1/62)

การปลดล็อคมูลค่าจากการลงทุนที่ซ่อนอยู่จะหนุนกำไรและเงินปันผลเพื่อจ่าย

LH ได้ปรับแผนกลยุทธ์เมื่อไม่นานมานี้ โดยจะมีการขายสินทรัพย์ทุกปีเพื่อรับรู้รายได้ ซึ่งจะเพิ่ม ROE และแสดงมูลค่าการลงทุนทั้งในบริษัทร่วม และสินทรัพย์ให้เช่าในกทม. และสหรัฐฯ ราคาตลาดของสินทรัพย์เหล่านี้สูงกว่าต้นทุนของ LH อย่างน้อย 50% อีกทั้งมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิและเงินปันผลเพื่อจ่ายของเราจากศักยภาพในการขายตึกอพาร์ทเมนท์ในสหรัฐฯ ในปีหน้า