'พลังงาน' ชง 'กพช.' ขออนุมัติกรอบรื้อใหญ่แผนพีดีพี

'พลังงาน' ชง 'กพช.' ขออนุมัติกรอบรื้อใหญ่แผนพีดีพี

เตรียมเสนอ "กพช." ขออนุมัติกรอบรื้อใหญ่แผนพีดีพี ดึง "ไออีเอ" ช่วยทำแผนเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน ส่อเลื่อนเปิดประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ 1-2 เดือน

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย กระทรวงพลังงาน เตรียมนำเสนอกรอบการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2558 -2579 (พีดีพี 2015) ใหม่ เพี่อขออนุมัติหลักการจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กพช.) 18 ต.ค.นี้ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยกรอบการจัดทำแผนพีดีพี ฉบับใหม่ จะอยู่บนพื้นฐานความต้องการใช้ไฟฟ้าและกำลังการผลิตไฟฟ้าที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งรูปแบบการผลิตไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะเน้นพลังงานทดแทนมากขึ้น รวมถึงแผนการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าที่จะมีเรื่องของระบบไมโครกริดเข้ามาช่วยลดต้นทุนและเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้า

ส่วนความคืบหน้าการเปิดประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2 แหล่งหมดอายุปี 2565-2666 คือแหล่งเอราวัณและบงกช ขณะนี้ กระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างรอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) หลังจากได้ส่งเรื่องไปตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.นี้ ซึ่งหากพิจารณาเสร็จภายใน 1 เดือน คาดว่าจะสามารถประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเปิดประมูล (ทีโออาร์)ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ แต่หากขั้นตอนพิจาณาข้อกฎหมายล่าช้าออกไป ก็อาจส่งผลให้การเปิดประมูลล่าช้าออกไป 1-2 เดือน จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถเปิดขายทีโออารได้ในเดือน ต.ค.นี้

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การปรับปรุงแผนพีดีพี ครั้งนี้ สนพ.ได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยดึงทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เข้ามาช่วยประเมินศักยภาพของระบบไฟฟ้าของไทยว่าจะสามารถรองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ในระดับใด เพื่อวางแผนกระจายเชื้อเพลิงในแต่ละภูมิภาคให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าและกำลังผลิต รวมถึงกำหนดรูปแบบเชื้อเพลิงให้เหมาะสม ซึ่งการจัดทำแผนพีดีพีจะเสร็จภายใน 6 เดือน หรือต้นปี2561 จากนั้นจะนำไปสู่การปรับแผนพลังงานต่างๆให้สอดคล้องกับแผนพีดีพีต่อไป