รวบลอบขายปืนบีบีกันซื้อขายผ่านออนไลน์

รวบลอบขายปืนบีบีกันซื้อขายผ่านออนไลน์

ตร.แถลงจับ 2 หนุ่มลอบขายปืนบีบีกันซื้อขายผ่านออนไลน์ เผยรับขายมาได้ 8 เดือนกว่า 200 กระบอกมีการทดลองใช้ใกล้เคียงปืนจริง

ที่กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 กันยายน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รองผบช.ทท. แถลงผลเจ้าหน้าที่บก.สปพ. ร่วมจับกุมนายอุดม หรือ ดม ร่วมจิตร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/61 หมู่ 8 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และนายสิทธิศักดิ์หรือศักดิ์ พัดไธสง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 15 ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด.38 จำนวน 10 กระบอก อุปกรณ์ในการดัดแปลงสภาพบีบีกันเป็นอาวุธปืนจำนวน 200 ชุด เครื่องกระสุนปืน 200 นัด และเครื่องมือในการดัดแปลงสภาพปืน เช่น โม่ปืน ลำปล้อง สปริงแหนม จำนวนหลายรายการ สามารถจับกุมได้ที่ร้านรับส่งพัสดุดอกชน ซอยประชาอุทิศ 90 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 39/538 ซอยประชาอุทิศ 125 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการขายปืนและสิ่งเทียมอาวุธปืนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และมีการส่งของผ่านพัสดุไปรษณีย์เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางโซเชียลมีเดียเจ้าหน้าที่จึงทำการล่อซื้อจนสามารถจับกุมนายอุดมได้ขณะที่กำลังนำอาวุธปืนไปส่งที่ไปรษณีย์ จากนั้นขยายผลจับกุมนายสิทธิศักดิ์ได้ภายในบ้านพักทาวน์เฮาส์สูง 3 ชั้นที่ใช้เป็นสถานที่ลักลอบผลิตอาวุธปืน จากการตรวจค้นสามารถตรวจยึดของกลางได้อีกหลายรายการ

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยจำหน่ายทางช่องทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียมาประมาณ 8 เดือนแล้ว โดยจำหน่ายอาวุธปืนในราคากระบอกละ 8,500 บาท โม่ปืนอันละ 2,500 บาท ซึ่งมีการจำหน่ายกับลูกค้ามาแล้วกว่า 200 กระบอก อีกทั้งยังมีการทดลองอาวุธปืนให้ใกล้เคียงกับอาวุธปืนจริง เพื่อให้สามารถขายให้กับลูกค้าที่ต้องการอาวุธปืนเถื่อนที่มีประสิทธิภาพได้มากและใช้งานได้จริง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันผลิตอาวุธปืนและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ , ร่วมกันพยายามจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนส่งสน.ทุ่งครุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป