โบรกคาด'หุ้นไทย'พุ่งต่อ

โบรกคาด'หุ้นไทย'พุ่งต่อ

บล.ธนชาต ระบุหุ้นไทยมีแนวโน้ม "บวกระยะยาว" หลังจากวานนี้ทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 23 ปี และลงทุนกลุ่มหุ้นใหญ่

ฝ่ายวิจัย บล.ธนชาต เผยแพร่บทวิเคราะห์ ระบุว่า  SET ทำลายแนวต้าน 1,650 จุด ทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 23 ปี ปิดที่ 1,659.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.2 หมื่นล้าน ต่างชาติซื้อ 3 พันล้านบาท

การที่ SET สามารถ "ทำลาย" แนวต้าน 1,650 จุด ไปได้ด้วยปริมาณการซื้อขายสูง 7 หมื่นล้าน ยิ่งเป็นสัญญาณยืนยันมุมมอง "บวก" ต่อ SET ระยะยาวด้วยเป้าหมายสิ้นปี 2018 ที่ 1,830 จุด ขณะที่ภาพสั้นแม้อาจแกว่งตัวจากการ "ปรับพอร์ต" FTSE วันนี้ (เพิ่ม EA และ WORK เข้าดัชนีอ้างอิง) และการทดสอบขีปนาวุทธเกาหลีเหนือเช้านี้ (9 ครั้งใน 10 ครั้งที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธตั้งแต่ มี.ค.17, SET ให้ผลตอบแทนเป็น "บวก") แต่มองเป็นโอกาส "ซื้อ" อยู่ดี ที่บริเวณแนวรับระยะสั้น 1,650-1,655 จุด

หุ้นใหญ่จะมีแนวโน้ม Outperform ตลาดต่อไป ชอบ 1) กลุ่มพลังงานขนาดใหญ่หนุนตลาด ชอบ PTT ESSO  (PE18 ต่ำ 6.2x และคาดว่าจ่ายปันผลได้ปีนี้) PTTGC (laggard play ที่คาดการณ์กำไร 2H17 จะเร่งตัวขึ้น) 2) กลุ่มค้าปลีก มอง SSSG ฟื้นตัว ชอบ CPALL  HMPRO ("ซื้อ" QH ราคาหุ้นต่ำกว่า NAV ที่ถืออยู่ใน HMPRO) 3) กลุ่มธนาคาร ผลดีเศรษฐกิจในประเทศฟื้น ชอบ KBANK  BBL 4) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ชอบ HANA  KCE มองบวกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โลกขยายตัว 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การทดสอบขีปนาวุธเช้านี้ อาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโลก และ SET ในช่วงเปิดตลาด อย่างไรก็ดีจากสถิติผลตอบแทน SET หลังเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธตั้งแต่ มี.ค.17 เป็นต้นมา จะเห็นว่าหลังการทดสอบขีปนาวุธไปประมาณ 5 วันทำการ SET ให้ผลตอบแทนเป็น "บวก" 9 ใน 10 ครั้ง

รวมทั้งกรณี BOE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ขณะที่ตลาดคาดการณ์ BOE จะค่อยๆ ลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายลงในเร็วๆ นี้  และเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. +0.4% m-m (ตลาดคาด +0.3% m-m) รวมไปถึงราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอาจส่งผลให้ความคาดหวังต่อการเร่งตัวของเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

ส่วนในเชิงเทคนิค SET ขึ้นแรงทะลุแนวต้าน 1,650 จุดขึ้นไปได้ มีเป้าหมายถัดไปที่ 1,669 และ 1,690 จุด ส่วนแนวรับกรณีแกว่งตัวมีที่ 1,656 หากยืนไม่อยู่มีถัดไปที่ 1,650 และ 1,647 จุดตามลำดับ แนะนำถือหุ้นเพื่อ Let Profit Run ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายระยะกลางที่ 1,690 จุด