Retail Market Monitor (13 ก.ย.60)

Retail Market Monitor (13 ก.ย.60)

เดินหน้าด้วยการสลับตัวผลักดันและแกว่งพัก

ทิศทางการแสเงินทุน (Fund flow) สู่ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังไม่ได้ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตามสภาพคล่องภายในประเทศในระดับสูงทั้งจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยที่มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทำให้ตลาดเดินหน้าโดยการสลับตัวเก็งกำไรและแกว่งพักตัวในหุ้นที่ขึ้นมาก ซึ่งช่วยให้ตลาดยังคงเดินหน้า และรักษาโมเมนตัมเชิงบวก ทั้งนี้การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ จากการฟื้นฟูความเสี่ยหายหลังเฮอร์ริเคน รวมทั้งคาดการณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฝั่งสหรัฐฯ อาจกระทบต่อกระแสเงินทุนในตลาดเกิดใหม่ในระยะสั้น ซึ่งจะเปิดโอกาสในการสะสมหุ้นขนาดใหญ่

การลงทุนเน้นเลือก 1) หุ้นใหญ่ที่ยัง Laggard กว่าตลาด  อาทิ PTT, TCAP, LH, CPALL, BJC, SCB, PTTEP, CPF, BANPU, BDMS, ROBINS, TRUE, KCE, PTG 2) หุ้นมีประเด็นเฉพาะตัวอย่าง TLUXE* ECF* PPS* BFIT* FER* VNG* 3) หุ้นที่โมเมนตัมช่วงสั้นเป็นบวก BFIT* SAPPE* VNG* AJ* TTA* PSTC* NCL* MONO*

ภาพรวมกลยุทธ์: ดัชนียกกรอบการแกว่งตัวขึ้นเป็น 1625-1650 การเก็งกำไรเลือกหุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย ราคาไม่แพงเกินไป และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/60 และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ SCB, PM*, VNG*

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันฟื้นตัวหลังการผลิตน้ำมันของโอเปกส.ค. ลดลง เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่ผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนที่พัดเข้าสหรัฐฯหมดกำลังลง คาดเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันมีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง เป็นบวกต่อ PTTEP / ราคาโลหะปรับขึ้น / สินค้าเกษตรทรงตัว / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,344.00 จุด (-0.81%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 99.75 เหรียญ/ตัน (+0.20%)  

เงินเฟ้ออังกฤษ – สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ส.ค. (CPI) ปรับขึ้นสู่ระดับ 2.9% จาก 2.6% ในเดือน ก.ค. โดยเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี จากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ BREXIT

ระงับบิน – คสช. ร่วมกับ ครม. มีมติเห็นชอบออกมาตรา 44 สั่งห้ามบริษัทหรือองค์กรที่ไม่ได้ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC) ให้ระงับการบินตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 60 – 31 ม.ค. 61 เพื่อให้สอดคล้องกับคำแนะนำ และการจะตรวจสอบมาตรฐานการบินของ ICAO ที่จะเดินทางมาตรวจในวันที่ 20-27 ก.ย.นี้

แผนพัฒนาตลาดทุน 5 ปี – ครม.เห็นชอบร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 3 (ปี 60-64) 5 มาตรการหลัก 14 มาตรการย่อย และแผนงานสนับสนุน 44 แผนงานย่อย โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนามูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดให้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่าของ GDP และมีมูลค่าตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนจำนวน 0.25 เท่าของ GDP

ไทคอนควบ 3 กองทุน – โดยมีแผนนำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 3 แห่ง TFUND, TLOGIS และ TGROWTH แปลงเข้ากอง TREIT โดยจะประชุมผู้ถือหน่วยน 18-19 ต.ค.นี้ เราแนะนำนักลงทุนแปลงเป็น TREIT

TSF – อนุมัติการขยายการลงทุนในป้ายโฆษณาแบบ Smart Digital ภายใน 7-11 จำนวน 100 ป้าย และป้ายโฆษณาหน้าร้าน 7-11 จำนวน 68 ป้าย คาดจะส่งผลดีต่อผลประกอบการ TSF ตั้งแต่ไตรมาส 4/60

ประเด็นติดตาม: 15 ก.ย. – ประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป / 16 ก.ย. ภาษีสรรพสามิตใหม่ / 18 ก.ย.- ศาลนัดไต่สวนแผนฟื้นฟู EARTH / 20 ก.ย. – FOMC พิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ

แนวรับ 1625-1630/แนวต้าน : 1645-1650 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

หุ้นแนะนำ

  • SCB (172) : หุ้นธนาคารที่ยังคง Laggard กลุ่มที่สุด ในขณะที่ความเสี่ยงการผิดนัดชำระและตั้งสำรองของลูกหนี้รายสำคัญๆลดลง ทำให้หุ้นเป็นเป้าหมายของการผลักดัน
  • PM* (13) : ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องจากการปรับโครงสร้างการบริหาร และการผลักดันช่องทางการเติบโตใหม่โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน และการส่งออกไปจีน
  • VNG* (15) : ผลการดำเนินงานมีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยการใช้ไม่อัดและ MDF ได้รับอานิสงค์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว
  • หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: BFIT* SAPPE* VNG* AJ* PSTC* NCL* MONO*