ตร.ยันทำคดีรุมทำร้าย 'รปภ.' ตรงไปตรงมา

จากกรณีคดีรุมทำร้าย นายสมชาย กลิ่นกล่อม อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ซอยคู้บอน 28 เขตคันนายาว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้เสียชีวิตต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยเตาอั้งโล่ จนทำให้ควันไฟลอยเข้าไปรบกวนกลุ่มผู้ต้องหาภายในบ้าน ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาเอาไว้ได้ 4 ราย เป็นชาย 2 ราย และหญิงอีก 2 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ก.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว ได้สอบปากคำ นายสุรสีห์ศรี อุตตรา ลูกชายนายสุชาติ อุตตรา ผู้ต้องหาก่อเหตุร่วมกันรุมทำร้าย นายสมชาย จนเสียชีวิต หลังมีการอายัดตัวมาจากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสารเสพติดและประวัติการก่อเหตุอาชญากรรมของ นายสุรสีห์ ไม่พบว่ามีประวัติแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจจะมีการสอบปากคำและรวบรวมหลักฐาน เพื่อส่งฟ้องศาลมีนบุรี ในวันพรุ่งนี้ต่อไป ส่วนนายสุชาติ พ่อของ นายสุรสีห์ ที่ร่วมกันก่อเหตุ ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และหากมีอาการดีขึ้น ก็จะรับตัวมาดำเนินคดีเช่นกัน

ทางด้าน พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า คดีนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน โดยเมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นางมันทรา มณฑาเงินวัฒนะสุข อายุ 48 ปี และลูกสะใภ้ ส่งฟ้องที่ศาลมีนบุรีแล้ว พร้อมกับดำเนินการคัดค้านการประกันตัว แต่ศาลได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนในวงเงินคนละ 500,000 บาท

"ขอยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ตำรวจทำสำนวนตรงไปตรงมา โดยมีหลักฐานชัดเจนจากพยานแวดล้อม และกล้องวงจรปิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และไม่คิดที่จะฟ้องร้องคดีกับบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์การให้ประกันตัวผู้ต้องหาในสื่อโซเชียลแต่อย่างใด"

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวน นางมันทรา ผู้ต้องหาอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปตากผ้าล้ำเข้าไปบริเวณบ้านของผู้ตาย หลังจากนั้นได้เกิดมีปากเสียงกัน ผู้ตายจึงนำอาวุธมีดจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงปัดมีดจนไปโดนบริเวณคิ้วตัวเองได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นสามีตนเองได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย จึงได้ออกมาช่วยเหลือ แต่ถูกผู้ตายใช้อาวุธมีดแทงเข้าบริเวณแขนจนเอ็นขาด หลังจากนั้นก็เกิดการชุลมุนกันขึ้นตามภาพวงจรปิด