‘แคปซูลกาแฟ-ชา’ขยายฐานรุกตลาดบ้าน

เครื่องชงกาแฟแคปซูลไม่ได้ใช้เฉพาะแค่กาแฟเท่านั้น เมื่อคอฟแมนอินเตอร์ฯ ผุดไอเดียสร้างผลิตภัณฑ์แคปซูลใหม่บรรจุใบชาและสมุนไพร เพิ่มช่องทางใช้งานเครื่องชงฯ แถมยังขยายฐานลูกค้าจากคอกาแฟสดมายังคอชาและน้ำสมุนไพร ชูจุดเด่นรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมจากแรงดันไอน้ำเล็งปูทางสมุนไพรไทยรุกตลาดจีน

คอฟแมน อินเตอร์เนชั่นแนล ทำธุรกิจกาแฟครบวงจร มีโรงคั่วรองรับกาแฟจากเกษตรกรโดยตรง (คอนแทรคฟาร์มมิ่ง) แล้วแพคหีบห่อส่งจำหน่าย เมื่อสินค้าติดตลาดและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงแตกไลน์สินค้า-บริการสู่แฟรนไชส์และการเป็นซัพพลายเออร์ด้านอุปกรณ์และวัตถุดิบ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกาแฟสดล่าสุดเมื่อ 2 ปีก่อนมองเห็นโอกาสตลาดกาแฟแคปซูลที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในแถบยุโรปตะวันตก จึงแตกไลน์สู่กาแฟแคปซูลในชื่อบิ๊กอายคอฟฟี่

ต่อยอดธุรกิจสร้างตลาดใหม่

พัฒนพงษ์ รวีเสถียร ฝ่ายการตลาดบริษัท คอฟแมนอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า วัฒนธรรมการดื่มกาแฟคนไทยแตกต่างจากยุโรป โดยนิยมซื้อจากร้านกาแฟแล้วดื่มนอกบ้าน ขณะที่ในต่างประเทศนิยมดื่มในบ้านเพราะอากาศหนาว ฉะนั้น จะทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์แคปซูลกาแฟเข้าถึงระดับครัวเรือนมากขึ้น

“เศรษฐกิจไม่ดีอาจมีผลบ้าง แต่กระทบไม่มากสำหรับผู้ที่นิยมกาแฟ ดังนั้น จึงพยายามชูดจุดขายที่ช่วยให้ประหยัดค่ากาแฟ ไม่ต้องเดินทางออกไปซื้อกาแฟสดนอกบ้านในราคา 45 บาทขึ้นไป ขณะที่แคปซูลกาแฟมีราคา 15 บาทเท่านั้น และจากประสบการณ์ในธุรกิจกาแฟสด 13 ปี ผู้บริโภคสามารถมั่นใจในคุณภาพและรสชาติว่าไม่ด้อยกว่าใคร”

พร้อมกันนี้ได้ต่อยอดวัตถุดิบที่มีด้วยการแตกไลน์สู่ “แคปซูลชา” ขยายฐานลูกค้าที่นิยมดื่มชา ก่อนที่จะขยับสู่แคปซูลสมุนไพรไทย เพราะไทยมีจุดเด่นในเรื่องสมุนไพร หากนำมาบรรจุแคปซูลน่าจะได้รับความนิยม ทั้งยังไม่มีใครทำเรื่องสมุนไพรแคปซูลมาก่อน จึงถือเป็นรายแรกที่นำชาและสมุนไพรมาบรรจุลงในแคปซูล "ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับคือ ความสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องไปถึงแหล่งสมุนไพรอย่างเยาวราช ลดขั้นตอนการต้มและเคี่ยว ขณะที่แคปซูลสมุนไพรหรือแคปซูลชาบรรจุในถุงไนโตรเจนเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา 1 ปี ยังให้รสชาติและกลิ่นดีกว่าจากแรงดันในขั้นตอนผลิต ส่งผลให้รูปแบบการดื่มชาแตกต่างจากเดิม โดยใช้คอนเซ็ปต์เดียวกับกาแฟแคปซูลที่ต้องใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ”

แจ้งเกิดตลาดออนไลน์

สำหรับแนวทางการทำตลาดให้ความสำคัญกับการตลาดออนไลน์ จึงตัดต้นทุนค่าออกงานแฟร์และค่าโฆษณา หลังจากพิจารณาเห็นว่าผู้บริโภคไม่นิยมเดินงานแฟร์และงานอีเว้นท์ ขณะที่ตัวเลขการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทดีไวซ์เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด อีกทั้งค่าโฆษณาในสื่อออนไลน์เมื่อเทียบกับสื่อหลักยังถูกกว่ามาก ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายหันมาใช้มากขึ้น

"ที่ผ่านมา การทำตลาดค่อนข้างลำบากทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและอารมณ์ซื้อ กลุ่มที่ได้ผลกระทบตรงหรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย แต่ด้วยความที่บริษัทมีลูกค้าหลากหลาย ซึ่งรวมถึงกลุ่มคู่ค้าหรือร้านขายกาแฟที่ยังคงสั่งซื้อเรื่อยๆ ลดความเสี่ยงลงได้ในระดับหนึ่ง ประกอบกับบริษัททำตลาดมานานจึงได้รับความเชื่อถือจากคู่ค้ามากกว่าผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เข้ามาทำตลาด เพราะกลุ่มคนที่อยากทำธุรกิจยังคงมีมากขึ้นเรื่อยๆ”
บริษัทมีสัดส่วนรายได้ 60% จากโรงแรม ที่เหลือ 40% จากผู้บริโภคตามครัวเรือน คาดว่าปีนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่องด้วยการขยายตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่บ้าน โรงแรม บ้านพักตากอากาศและร้านอาหาร

นอกจากนี้ยังรับจ้างทำโออีเอ็มกาแฟให้กับคู่ค้าเพื่อสร้างอัตลักษณ์เฉพาะตัว ในอนาคตพยายามผลักดันสินค้าสมุนไพรไทยเข้าไปยังตลาดจีน แต่ปัญหาที่การรับรองระหว่างประเทศ เพราะขอบเขตอำนาจ อย. ให้การรับรองเฉพาะในประเทศเท่านั้น จึงยังต้องศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้อื่นๆ เพิ่มเติม