จับผัวเมียยิงแหม่มรัสเซียเจ็บสาหัส คดีลักทรัพย์ของกลางอื้อ

จับผัวเมียยิงแหม่มรัสเซียเจ็บสาหัส คดีลักทรัพย์ของกลางอื้อ

ตำรวจรวบหนุ่มไนจีเรีย-เมียชาวไทย คดีชิงทรัพย์-ยิงหญิงชาวรัสเซียบาดเจ็บสาหัส ด้านผู้เสียหายหลายคนรุมชี้ตัว

วันที่ 1 กันยายน ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ และ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นาย JAMES CHUKWUNWEIKE CHIJOKE อายุ 27 ปี สัญชาติไนจีเรีย ข้อหาความผิดฐานชิงทรัพย์ และพยายามฆ่าผู้เสียหาย และนางสาวศศิภา หรือปุ้ย นครไธสง ภรรยา ในฐานความผิดลักทรัพย์หรือลักของโจร พร้อมของกลางจำนวนหลานรายการ อาทิ สร้อยคอทองคำ เครื่องคอมพิวเตอร์ นาฬิกาข้อมือ เป็นต้น เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา

พ.ต.อ.ประชุม กล่าวว่า การจับผู้ต้องหาชาวไนจีเรียดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่30สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ชาวต่างชาติ ทราบชื่อผู้เสียหายภายหลัง คือ Miss Elena Kharenko อายุ52ปี สัญชาติรัสเซีย (ผู้เสียหาย) โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย ซึ่งถือเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์ได้รับความสนใจจากประชาชน หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินหลายรายการ และเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ สภ.ฉลอง ได้ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัด ได้เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ภายใต้การควบคุมสั่งการของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จนทราบว่าคนร้ายรายนี้ คือ Mr.James Chukwunweike Chijioke และได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ จากนั้นได้นำหมายค้นและหมายจับ ไปยังบ้านเลขที่68/42ม.7ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต และ นอกจากนี้ยังมีของกลางอีก 92รายการ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีพร้อมกับ น.ส.ศศิภา หรือปุ้ย นครไธสง อายุ33ปี ข้อหาฐานความผิด ลักทรัพย์หรือลักของโจร (ความผิดซึ่งหน้า จับได้พร้อมของกลาง) เนื่องด้วย น.ส.ศศิภา ฯ เป็นผู้นำของกลางโน้ตบุ๊ก ไปส่งพัสดุไปรษณีย์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดมาได้

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับของกลางที่ยึดมาได้จำนวนมากนั้น ทางชุดสืบสวนฯ ได้เรียกผู้เสียหายที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วในพื้นที่ สภ.ฉลอง และมีการตรวจสอบพบว่าคนร้ายใช้แผนประทุษกรรมต่อทรัพย์แบบเดียวกัน โดยเน้นเข้าไปลักทรัพย์ชนิดตู้เซฟ เพื่อหวังทรัพย์สินที่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นบ้านพักของชาวต่างชาติและมีฐานะ ขณะนี้มีผู้เสียหายมายืนยันและชี้ของกลางว่า เป็นของกลางที่ถูกคนร้ายลักไปจริง แล้วจำนวน3ราย เป็นผู้เสียหายชาวแคนนาดา1ราย และคนไทย2ราย

พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวอีกว่า สำหรับการจับกุมในคดีนี้ ทีมสืบสวนสอบสวนได้ทุ่มเทการทำงานหลังจากเกิดเหตุอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยข้อมูลและการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเฝ้าติดตามพฤติการณ์ผู้ต้องสงสัยประกอบกัน ประกอบกับการได้ข้อมูลเพิ่มเติมและสอบปากคำผู้เสียหายหลังจากที่ได้รับการรักษาแล้ว ให้การแน่ชัดว่าผู้ต้องหานี้ คือ คนร้ายที่ก่อเหตุ แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิบัติตลอดข้อกล่าวหา ก็จะยังสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้จากพยานหลักฐานทั้งหมด เช่น โน้ตบุ๊ก ยืนยันความผิดของผู้ต้องหา และพยานวัตถุอื่นๆ อย่างไม่มีข้อกังขา ประกอบกับผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ยังมีทรัพย์สินมีค่ามากมายปรากฏ ตามที่ตรวจยึดมาได้ ชี้ให้เห็นว่าผู้ต้องหานี้เป็นคนร้ายโดยสันดานอาชีพ กระทำความผิดสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องดังนั้นจึง จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการแถลงข่าว นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ และคณะได้เข้าพบ เพื่อมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความขอบคุณผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการตำรวจภูธรฉลองและทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่ได้ทุ่มเทการทำงานจนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายดังกล่าวไว้ได้