สุดรันทด! วอนช่วยสองพี่น้องพิการสมองแต่เกิด

สุดรันทด! วอนช่วยสองพี่น้องพิการสมองแต่เกิด

สุดรันทด!! 2 พี่น้องพิการทางสมองตั้งแต่เกิดฐานะยากจน บ้านเก่าผุพัง ยังชีพด้วยเบี้ยคนพิการเพียงเดือนละ 800 บาทวอนสังคมช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2560 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากนางชวนพิศ เรืองแสง ครูโรงเรียนบ้านเบงท่าลาด ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ว่าได้พบกับ 2 พี่น้อง คือนายสุเทพ ฤทธิ์รณ อายุ 60 ปี และนางสาวอุบล ฤทธิ์รณ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 บ้านโคกกลาง ม.15 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ พิการทางสมองตั้งแต่เกิด ทั้ง 2 คน มี นิ้วมือ 12 นิ้ว และ นิ้วเท้า 12 นิ้ว เดินเหินลำบาก แถมมีฐานะยากจน อาศัยบ้านบ้านไม้สภาพเก่าผุพัง หลังคาสังกะสี บังแดดแต่ไม่กันฝน ยังชีพด้วยเบี้ยคนพิการเพียงเดือนละ 800 บาท ขอให้สื่อมวลชน ลงพื้นที่นำเสนอข่าว วอนสังคมช่วยเหลือต่อไป

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่บ้านพร้อมนางชวนพิศ เรืองแสง ครูโรงเรียนบ้านเบงท่าลาด และนายสมชาย บุญสด ผู้ใหญ่บ้านโคกกลาง ม.15 ซึ่งบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว อายุกว่า 60 ปี มีสภาพเก่าใกล้ผุพัง หลังคามุ่งด้วยสังกะสี ห้องน้ำเก่า และมีน้ำท่วมขัง รอบบริเวณบ้าน จาการตรวจสอบภายในบ้านแทบจะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องอำนวยความสะดวกเลย ภายในบ้านเต็มไปด้วยฝูงยุงจำนวนมาก จากการสอบถาม ทราบว่าบ้านหลังนี้ เป็นมรดกของ พ่อ-แม่ ของ นายสุเทพ ฤทธิ์รณ อายุ 60 ปี และนางสาวอุบล ฤทธิ์รณ อายุ 55 ปี ใช้สำหรับอาศัยซุกหัวนอน อยู่กับพี่สาวอีก 2 คน ร่วมเป็น 4 คน ในบ้านหลังเก่ากันแดด แต่ไม่กันฝนหลังนี้

ทั้งนี้ จากการสอบถาม ทราบว่าบ้านหลังนี้ เป็นมรดกของ พ่อ-แม่ ของ นายสุเทพ ฤทธิ์รณ อายุ 60 ปี และนางสาวอุบล ฤทธิ์รณ อายุ 55 ปีใช้สำหรับอาศัยอยู่อาศัยกับพี่สาว และน้องสาว ร่วม 4 คน ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเงินคนพิการเพียงเดือนละ 800 บาท โดยคนในพื้นที่ใกล้เคียงจะให้ 2 พี่น้องค้างค่าอาหารไว้ก่อนเพื่อกินในแต่ละวัน จนกว่าเงินคนพิการ และคนชราจะออก แล้วจึงนำมาจ่ายให้กับร้านค้า แต่ถ้าวันไหนโชคดีมีคนใจบุญนำ กับข้าวและอาหาร ก็จะประหยัดไปได้อีกมื้อ

นางสมนึก ฤทธิรณ อายุ 68 ปี แม่ค้าขายของชำ ซึ่งเป็นพี่สาว ของ 2 พี่น้องพิการทางสมองตั้งแต่เกิด กล่าวว่า ตนมีพี่น้องร่วมบิดมารดา 7 คน ตายไปแล้ว 3 คน เหลือเพียง 4 คนพี่น้อง น้องชาย น้องสาว สมองพิการมาตั้งแต่เกิด ในแต่ละวันให้แต่อาหารทิ้งไว้ แล้วตนก็ออกมาขายของที่ตลาดสดอำเภอชุมพลบุรี แต่ก็จะมีพี่สาวอีกคนคอยอยู่ดูแลที่บ้าน เดือนร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะฐานะยากจน บ้านเก่าใกล้ผุพัง บ้านเป็นมรดกของพ่อแม่ เวลาฝนตกก็รั่ว เปียกปอนกันทั้งบ้าน ทุกวัน น้องชายและน้องสาว ได้รับการช่วยเหลือเพียงเบี้ยคนพิการ เดือนละ 800 บาท ก็อยากวิงวอนสังคมช่วยเหลือในเรื่องที่อยู่อาศัย

นางชวนพิศ เรืองแสง ครูโรงเรียนบ้านเบงท่าลาด กล่าวว่า เมื่อมาเจอ 2 พี่น้อง ก็รู้สึกสะท้อนใจ ว่ายังมีคนลำบากแบบนี้อีกในเขตอำเภอชุมพลบุรี ไม่เคยคิดว่ายังจะมีคนลำบากแบบนี้อีก ทั้งที่ตนอยู่มาที่นี้กว่า 30 ปี ทำไมไม่เจอเขา เพราะไปแต่โรงเรียน ไม่เคยเห็น จนกระทั้งเมื่อ ตนพึ่งรู้ เพิ่งทราบพอมีอะไรเหลือก็จะเอามาให้ จากการถามพี่สาวเขา บอกว่าเวลาฝนตกต้องรอให้ฝนหยุดก่อน เพราะว่านอนไม่ได้ เพราะว่ามันรั่ว หลังคาสังกะสีก็พุหมด สภาพบ้านก็อย่างที่เห็น แทบจะดูไม่ได้ ถ้าหากว่าสังคมช่วยกันดูแลสักนิด คนที่พอมีอันจะกิน ช่วยกันบริจาคคนละเล็กละน้อย ก่อนชีวิตของพวกเขาทั้ง 2 คนจะหาไม่ ให้เขาได้อยู่ที่ดีๆ บ้านหลังเล็ก น้ำไม่ท่วม ฝนตกไม่รั่วใส่ ก็อยากให้ทุกคนได้ช่วยกัน

ด้านนายสมชาย บุญสด ผู้ใหญ่บ้านโคกกลาง ม.15 กล่าวว่า บ้านหลังนี้มีแต่คนพิการ เป็นมาตั้งแต่เกิด ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะสมองไม่ไป ตนได้ประสาน เทศบาลตำบลชุมพลบุรีช่วยเหลือเบี้ยคนพิการ เดือนละ 800 บาท รวม 2 คนมีรายได้ 1,600 บาท แต่ก่อนไปอาศัยบ้านน้องชายอยู่ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้กับพี่สาวคนโต ซึ่งก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแล เพราะต้องออกไปขายของทุกวัน ที่ตลาดสดเทศบาลอำเภอชุมพลบุรี บ้านหลังนี้เป็นบ้านแรกกำเนิด เป็นของพ่อแม่เขา ซึ่งตายนานแล้ว ตนขอวิงวอนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแล หรือวิงผู้ใจบุญ ที่อยากจะช่วยเหลือครอบครัวนี้ ที่ยากจนจริง ดูสภาพบ้านตั้งแต่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นแบบนี้ นับวันยิ่งแต่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา

สำหรับผู้ใจบุญ ต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้สามารถบริจาคเงินได้ที่ หมายเลขบัญชีชื่อ นางสาวอุบล ฤทธิ์รณ ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรินทร์ หมายเลข 310-0-83578-6 ประเภทบัญชีฝากออมทรัพย์