Daily Market Outlook (29 ส.ค.60)

คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ ตามทิศทางการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลก หลังจากเกาหลีเหนือเช้านี้ยิงขีปนาวุธข้ามดินแดนประเทศญี่ปุ่นไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้ ฮอกไกโด นับเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือยิงจรวดผ่านดินแดนของประเทศอื่น ซึ่งถือว่าเป็นการยั่วยุที่ร้ายแรง และอาจก่อให้เกิดผลรุนแรงตามมาได้ หลายมลรัฐภาคใต้ของสหรัฐ และชายฝั่งทะเลรอบอ่าวที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมันกำลังเผชิญน้ำท่วมที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์ คาดความเสียหายในระดับสูง กดดันหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมัน ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่ค่อยมีอิทธิพลมากต่อตลาด

 

หุ้นเด่นวันนี้: ANAN (ราคาปิด 5.05 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS 12 เดือน เท่ากับ 7.40 บาท)

ANAN มีแผนจะโอนโครงการของ ANAN เองและของ JV ในช่วงครึ่งปีหลังมากถึง 20,068 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของยอดโอนทั้งปีที่ตั้งเป้าหมายไว้ 25,047 ล้านบาท โดยยอดโอนราว 3,679 ล้านบาทอยู่ในช่วงไตรมาส 3/60 และ 16,389 ล้านบาทอยู่ในช่วงไตรมาส 4/60 เราจึงคาดการณ์ในเบื้องต้นว่ากำไรสุทธิในงวด 2H60 ของ ANAN จะอยู่ในระดับประมาณ 1,700 ล้านบาท เทียบกับช่วง 1H60 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 420 ล้านบาท เราคาด ANAN มีกำไรสุทธิปี 2560 เท่ากับ 2,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43%YoY และกำไรสุทธิปี 2561 เท่ากับ 3,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46%YoY เราจึงเห็นว่า ANAN มีการเติบโตของกำไรสุทธิดีที่สุดตัวหนึ่งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เราให้ราคาเป้าหมายที่ 7.40 บาท จากการอิงกำไรถัวเฉลี่ยระหว่างปี 2560 และ 2561 ซึ่งเท่ากับ 0.74 บาท ที่ PER 10 เท่า ราคาปัจจุบันมี Upside 46%Price Pattern ของ ANAN ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily & Monthly Buy Signal รอเพียงการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ เมื่อสามารถปิดตลาดรายสัปดาห์เหนือ 5.15 บาท เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ ANAN ยังคงบ่งบอกว่าจะได้เห็นการทำ New High ที่ 5.90 บาท ทั้งนี้ ANAN มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 4.98 บาท (Resistance: 5.10, 5.15, 5.20; Support: 5.00, 4.96, 4.90)      

 

ปัจจัยสำคัญ                                                                                                       

ประเด็นในประเทศ:

·         กระทรวงพาณิชย์เป้าหมายการส่งออกเพิ่มขึ้น กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกในปี 2560 มาอยู่ที่ 230.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7% จากเดิม 5% หลังจากที่มีการเติบโตของการส่งออกที่แข็งแกร่งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา  (Bangkok Post)

·         กสทช. คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลใบอนุญาต 2600 MHz ในเดือนธันวาคมหลังการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งาน (Bangkok Post)

·         KBANK (Bt200; BUY; AWS 17TP: Bt217) เข้าซื้อหุ้นธนาคาร Maspion ธนาคารอินโดนีเซียซึ่งเน้นลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงDigital Banking มูลค่าธุรกรรมประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (Bangkok Post / KBANK) ความเห็น: การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์การลงทุนใน AEC + 3 หรือในอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เรายังคงประมาณการกำไรปี 2554 ไว้ที่ 41.4 พันล้านบาท (+ 3% YoY)

ต่างประเทศ:

        ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีถูกยกระดับขึ้นอย่างมาก เกิดเหตุเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเช้าวันนี้ข้ามญี่ปุ่นและตกลงในสู่น่านน้ำแปซิฟิกนอกชายฝั่งฮอกไกโด (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้กดดันตลาดก่อนรายงานการจ้างงานประจำเดือนส.ค. ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวชึ้น 5/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 155% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. (Reuters)
• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 16 เดือนเทียบกับสกุลเงินหลักและต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเทียบกับเงินยูโรเมื่อวันจันทร์ หลังจากความเห็นจากเหล่าธนาคารกลางเมื่อวันศุกร์และความกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์  ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 59 สู่ระดับ 369 (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดในกรอบแคบ ๆ ทั้งบวกและลบเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ที่ถล่มเทกซัสอย่างรุนแรงในรอบกว่า 50 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (Reuters)
• รัฐเท็กซัส หลุยเซียน่าและบริเวณชายฝั่งเม็กซิโกกำลังประสบกับสถานการณ์น้ำท่วมที่มีแนวโน้มจะเลวร้ายมากขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ เนื่องจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ทำให้มีฝนตกมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ สูงขึ้น และคาดว่ามีประชาชนกว่า 450,000 ต้องการความช่วยเหลือจากเหตุอุทกภัยดังกล่าว (Reuters)

ยุโรป:

• หุ้นยุโรปดิ่งวานนี้ เนื่องจากค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น และ Mario Draghiไม่ได้แสดงความกังวลต่อค่าเงินที่แข็งค่าในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของเขาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแต่อย่างใด (Reuters)

เอเชีย:

• การใช้จ่ายของครัวเรือนของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค. ลดลงโดยไม่ได้คาดหมายทั้งที่ตลาดแรงงานตึงตัว การใช้จ่ายของครัวเรือนในญี่ปุ่นเดือนกรกฎาคมลดลง 0.2%YoY หลังจากที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีในเดือนมิถุนายน ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.7%YoYในขณะที่อัตราว่างงานในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ระดับ 2.8% โดยมีอัตราส่วนตำแหน่งงานต่อผู้สมัคร 1.52 เท่า ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 แสดงถึงสัญญาณการจ้างงานเต็มที่ (Reuters) 
• ดัชนีตลาดหุ้นหลักของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนในวันจันทร์ ซึ่งได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและการรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของบรรดายักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งนี้รายได้ของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 16.5% YoYแม้ว่ากำไรจะลดลงจากเดือน มิ.ย. แต่กำไรในช่วง 7 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 21.2% (Reuters) 

สินค้าโภคภัณฑ์:

• ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงมากกว่า 3% เมื่อวันจันทร์ แต่ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากพายุฮาร์วีย์ส่งผลให้โรงกลั่นหลายแห่งบริเวณชายฝั่งกัลฟ์โคสต์สหรัฐปิดทำการ ทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบสหรัฐลดลง และส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.48 ดอลลาร์ (-3.1%) อยู่ที่ 46.39 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 70 เซนต์ (-1.3%) อยู่ที่ 51.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (Reuters)
• ราคาทองแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนครึ่งวานนี้ หรือมากกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากการประชุมของเหล่าบรรดาธนาคารกลางเมื่อวันศุกร์ ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 1.4% อยู่ที่ 1,25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.3% อยู่ที่ 1,315.30 ดอลลาร์ (Reuters)