Daily Market Outlook (28 ส.ค.60)

Daily Market Outlook (28 ส.ค.60)

การเมืองสงบหลังยิ่งลักษณ์หายตัว

คาดหุ้นไทยขยับขึ้นหลังจากอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศแทนที่อาจจะเผชิญกับโทษจำคุกในคดีจำนำข้าว ทำให้คนไทยไม่ต้องเผชิญกับการประท้วงในท้องถนนกันอีก ลดความร้อนแรงทางการเมืองที่อาจพุ่งขึ้นได้ไปด้วย ตลาดการเงินโลกดูเหมือนทำไรไม่ถูกกันไปเมื่อเจเน็ต เยลเลน ไม่ได้กล่าวถึงนโยบายการเงินในคำปราศรัย เมื่อวันศุกร์ ทำให้ต้องตีความกันไปเองเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของ Fed ในขณะที่ ทำเนียบขาวสัปดาห์นี้จะมุ่งเน้นเรื่องปฏิรูปภาษี และเพดานหนี้สาธารณะ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวก ภายในประเทศกระทรวงการคลังและคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร) กำลังจะปรับขึ้นคาดการณ์ GDP สำหรับปีนี้ และอาจปีหน้าด้วย

หุ้นเด่นวันนี้: BCH(ราคาปิด 14.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 16.10 บาท)

บมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของบริษัทที่ออกมาค่อนข้างดี และการคาดการณ์ว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นไปอีกในช่วงครึ่งหลังของปี โดยที่ BCH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 172 ล้านบาท (+4% QoQและ +10% YoY) แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่กำไรบริษัทสามารถเติบโต QoQได้ ซึ่งสวนทางกับอุตสาหกรรม หนุนโดยรายได้จากกิจการโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคัล เราคาดกำไรสุทธิบริษัทจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง หนุนโดยช่วงไฮซีซั่น และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายจากสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา หนึ่งในการปรับขึ้น ได้แก่ การปรับเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัวต่อปีจาก 1,460 บาทเป็น 1,500 บาท ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ต่อ BCH อย่างมากเนื่องจากบริษัทมีจำนวนผู้ประกันตนมากเกือบถึง 800,000 ราย นอกจากนั้นแล้ว เราคาดโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคัลจะเริ่มแสดง EBITDA เป็นบวกนับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป หนุนโดยการออกกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เราคาดการณ์กำไรสุทธิ BCH จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 13.4% ในปี 60 และ 20.1% ในปี 61 หุ้น BCH มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้ (28 ส.ค. 2560) Price Pattern ของ BCH ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BCH มีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 18 บาท ทั้งนี้ BCH มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 13.50 บาท (Resistance: 14.70, 15.00, 15.20; Support: 14.30, 14.10, 13.80)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• ศาลฎีกาออกหมายจับในอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังไม่ไปรายงานตัวในการพิจารณาคดีรับจำนำข้าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บางแหล่งข่าวรายงานว่าอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว ในขณะที่ศาลฎีกาได้พิพากษาให้อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รับโทษจำคุก 42 ปี (Reuters/Bangkok Post)

• สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะปรับประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2560 ขึ้น จากประมาณการปัจจุบันที่ 3.6% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีขยายตัวเร็วกว่าคาด นอกจากนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี  (Thaipost)

• คณะกรรมการร่วม JSCCIB ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออก คณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย (JSCCIB) ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกของไทยสำหรับปี 2560 จเตอบโตเพิ่มขึ้นเป็น 4.0% จากเดิมที่ 3.5-4.0% เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (Bangkok Post)

• คาดลงนามโครงการรถไฟรางคู่สองรางคู่ 2 โครงการ กระทรวงคมนาคมคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญารถไฟรางคู่จำนวน 2 เส้นทาง มูลค่าโครงการรวม 23.3 พันล้านบาท ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ ได้แก่ เส้นทางนครปฐม - หัวหินและเส้นทางหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์  (Thaipost)

ต่างประเทศ:

• เยลเลนปิดปากเงียบเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  สุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลนในการประชุมประจำปีผู้ว่าธนาคารกลางในเมืองแจ็คสัน โฮล  รัฐไวโอมิงเน้นไปที่เสถียรภาพทางการเงินในขณะที่ไม่ได้ให้เบาะแสเกี่ยวกับนโยบายทางการเงิน ทำให้มีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น (Reuters)

• คาดพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์จะทำให้ช่วงเวลาการผลิตน้ำมันล้นตลาดของสหรัฐและราคาน้ำมันตกต่ำสิ้นสุดลง โดยผลกระทบดังกล่าวคาดว่าจะผลกระทบต่อตลาดพลังงานโลกเป็นเวลาหลายสัปดาห์  พายุเฮอริเคนฮาร์วีย์เข้าซัดชายฝั่งเท็กซัสด้วยความรุนแรงระดับ 4 เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมหนักซึ่งลดความสามารถในการกลั่นน้ำมันของสหรัฐ 11.2% เท่ากับ 1 ใน 4 ของการผลิตน้ำมันจากอ่าวเม็กซิโก และทำให้ท่าเรือตลอดชายฝั่งเท็กซัสต้องหยุดการทำงาน (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ หลังจากนางเยลเลนไม่ได้พูดถึงนโยบายทางการเงินในสุนทรพจน์  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 2.178% ลดลงจาก 2.194% เมื่อวันพฤหัส (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เทียบกับเงินยูโรและในรอบ 1 สัปดาห์เทียบกับเงินเยนเมื่อวันศุกร์ หลังจากนางเยลเลนไม่ได้ให้กล่าวถึงนโยบายทางการเงินและนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ไม่ได้แสดงความเป็นกังวลต่อค่าเงินยูโรที่แข็งค่า  ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดลบเกือบ 1% สู่ระดับ 92.366 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 59 (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันศุกร์ หลังจากนาย Gary Cohn ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์เผยว่ารัฐบาลจะหันไปให้ความสนใจต่อวาระการปฏิรูปภาษีซึ่งรอกันมานานในสัปดาห์นี้แต่นางเยลเลน ประธานเฟดยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับนโยบายทางเงินในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ผ่านมา (Reuters)

• นายสตีเว่น มนูชิน รมต.คลังเผยว่าจะมีการขยายเพดานหนี้สหรัฐในเดือนก.ย. หลังจากมีการพูดคุยกับผู้นำในสหรัฐจากทั้ง 2 พรรคพบว่ามีความเห็นพ้องไปในทางเดียวกัน (Reuters)

ยุโรป:

• หุ้นยุโรปดิ่งลงเมื่อวันศุกร์ ฉุดโดยค่าเงินยูโรที่แข็งค่าเนื่องจากตลาดสนใจถ้อยคำแถลงของเหล่าบรรดาธนาคารกลางที่มาประชุมที่แจ็คสัน โฮล นอกจากนี้ ความกังวลของการแข่งขันในอุตสาหกรรมยังส่งผลกระทบต่อหุ้น Ahold และหุ้นค้าปลีกอื่นๆ อีกด้วย (Reuters)

• ถ้อยคำของ Mario Draghiไม่ได้บ่งบอกมากนักถึงการลดการถือพันธบัตรในอนาคต (Reuters)

เอเชีย:

• ตลาดตราสารหนี้ภาครัฐของญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มบวก โดยราคาปรับขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ธนาคารกลาง (BOJ) จะปรับลดปริมาณหนี้ในงบดุลตามมาตรการซื้อคืนพันธบัตรลงจากระดับปกติ แต่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงลดลงต่อเนื่องหลังจากที่ข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในญี่ปุ่นยังเพิ่มขึ้นล่าช้า (Reuters)

• การเติบโตของกำไรสุทธิในภาคอุตสาหกรรมของจีนสำหรับเดือนกรกฎาคมลดความร้อนแรงลง หลังจากเร่งตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน กำไรของพวกเขาในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 16.5% YoYเป็น 612.7 พันล้านหยวน (92.18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งช้ากว่าเดือนก่อนหน้า โดยในช่วง 7 เดือนแรก บริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนมีกำไร 4.25 ล้านล้านหยวนเพิ่มขึ้น 21.2% YoYและชะลอตัวลงเล็กน้อยเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกที่ 22.0% YoYทั้งนี้กำไรของบริษัทที่เป็นของรัฐบาลจีนในช่วง 7 เดือนแรกเพิ่มขึ้นถึง 44.2% YoY เป็น 927.4 พันล้านหยวนใน 7 เดือนแรก เทียบกับช่วง 6 เดือนแรกที่ขยายตัว 45.8% YoY (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• ราคาน้ำมันปรับขึ้นเกือบ 1% เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐเตรียมพร้อมรับมือกับพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะกลายเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดที่พัดเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐในรอบกว่า 10 ปี ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น 44 เซนต์ (+0.9%) อยู่ที่ 47.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ลดลง 1.3% รายสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น 37 เซนต์ (+0.7%) อยู่ที่ 52.41 ดอลลาร์ แต่ลดลง 0.6% รายสัปดาห์ (Reuters)

• ราคาทองปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ หลังจากเจเน็ต เยลเลน ไม่ได้พูดถึงนโยบายทางการเงิน ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 1,292.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 1,297.90 ดอลลาร์ (Reuters)