'ปลัดสธ.'ยันรู้ผลสอบขรก.ลวนลามลูกจ้างก่อนเกษียณแน่!!

'ปลัดสธ.'ยันรู้ผลสอบขรก.ลวนลามลูกจ้างก่อนเกษียณแน่!!

"ปลัดสาธารณสุข" ยืนยันรู้ผล "บิ๊กข้าราชการ" ลวนลามลูกจ้างสาวก่อนตนเกษียณอายุราชการแน่นอน คาดจบภายในเดือนกันยายนนี้

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการสอบสวนทางวินัยกรณีข้าราชการมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และผู้บังคับบัญชาชั้นต้นที่ถูกพาดพิง ว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สธ. ได้กำชับให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ด้วยอยู่ในความสนใจของสังคม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ขณะเดียวกันก็ไม่กระทบสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยมีนพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 5 เป็นประธาน เพื่อดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกับข้าราชการชายผู้ถูกกล่าวหา และสอบสวนทางวินัยไม่ร้ายแรงกับผู้บังคับบัญชาชั้นต้น ตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

"ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจในการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อคณะกรรมการได้รับคำสั่งแต่งตั้งแล้วจะรีบดำเนินการทันที เป็นไปตามขั้นตอนการสอบสวนทางวินัย อย่างโปร่งใส ไม่มีการช่วยเหลือคนผิดอย่างแน่นอน ในส่วนของข้อกังวลว่าตั้งกรอบระยะเวลานานเกินไป จะเป็นการยืดเวลาหรือไม่นั้น จริงๆไม่ใช่ ขอย้ำว่ากรอบระยะเวลา 120 วันที่ตั้งไว้นั้นเป็นเพียงกรอบระยะเวลาของระบบราชการในการสอบสวนทางวินัย ซึ่งเป็นระเบียบของก.พ. ไม่ใช่ว่าต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน เพราะเรื่องนี้ท่านรัฐมนตรีกำชับแล้วว่าต้องทำให้เร็วที่สุด แต่ต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ก่อนผมเกษียณอายุราชการแน่นอน"นพ.โสภณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรรมการสอบสวนทางวินัยจำเป็นต้องดึงคนนอกเข้าร่วมหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า บุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขมีความรู้ความสามารถ และมีนิติกรไม่แพ้ที่อื่น ต้องถามว่าจะไม่ไว้ใจกันเลยหรืออย่างไร ขอให้รอผลการสอบสวนทางวินัยก่อน

เมื่อถามว่าสังคมจับตามองว่าผู้บังคับบัญชาที่ถูกสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงเป็นใคร เพราะหวั่นว่าอาจมีการช่วยเหลือกัน นพ.โสภณ กล่าวว่า ไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน แต่ที่ไม่อยากเปิดเผยชื่อ เนื่องจากยังถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่ที่ตั้งสอบวินัยไม่ร้ายแรง เพราะคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่า ผู้บังคับบัญชาท่านนี้ ซึ่งเป็นระดับรองผอ.กอง นั้น ทราบเรื่องมาตลอด จึงต้องมีการสอบสวนว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งก็ต้องรอผลสอบสวนกันก่อน เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น