‘ซีพีเอ็น’เดินหน้าศูนย์การค้าใหม่ดันรายได้โต 15%

‘ซีพีเอ็น’เดินหน้าศูนย์การค้าใหม่ดันรายได้โต 15%

ซีพีเอ็นคาดรายได้5ปี โตปีละ14-15% อานิสงส์เปิดศูนย์การค้าใหม่ต่อเนื่อง รับผลประกอบการไตรมาส3ปีนี้แผ่ว หวังปีหน้าสถานการณ์ดีขึ้นพร้อมทุ่มงบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท

นางสาวปัทมิกา พงศ์สูวย์มาย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารการเงิน บริษัทบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนการเติบโต 5 ปีข้างหน้า หรือปี2563 ให้การเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปีที่ 14-15 % โดยจะเป็นผลมาจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2-3 แห่ง ต่อปี รวมถึงการปรับปรุงซ่อมแซมศูนย์การค้าเพื่อเสริมศักยภาพอีกปีละ 3 แห่ง

“เป้าหมายของเราในระยะยาวคือ การสร้างการเติบโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่จำนวน 2-3 แห่งต่อปี ปรับปรุงประสิทธิภาพศูนย์การค้า3 แห่งต่อปี เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ให้เติบโตในระดับ 15 % ซึ่งบริษัทจะต้องรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ให้ปรับตัวลดลงไปด้วย”

ทั้งนี้แผนการเปิดศูนย์การค้าในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ 2 แห่ง ในพื้นที่นครราชสีมา และ พื้นที่สมุทรสาคร รวมถึงการเปิดโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสที่ 4 อีก 2 แห่ง

ลุ้นรายได้ปีนี้โต6%

สำหรับการเติบโตของรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 6 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 29,234 ล้านบาท ซึ่งการผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะทรงตัว ผลจากการปิดพื้นที่บางส่วนเพื่อซ่อมบำรุง ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ กดดันให้อัตราการใช้พื้นที่ปรับตัวลงไป ส่งผลให้ในปีนี้คาดว่าอัตราการใช้พื้นที่โดยรวมจะอยู่ที่ 90 % ลดลงจากปีก่อนที่ 94 %

ทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 อาจอ่อนตัวลง ผลจากการปิดพื้นที่เช่าเซ็นทรัล เวิลด์ในสัดส่วนที่สูง ก่อนที่จะมีทิศทางฟื้นตัวได้อีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 จากการอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น

แผนธุรกิจในปีหน้า บริษัทตั้งเป้าหมายจะเปิดศูนย์การค้า 2 - 3 แห่ง เบื้องต้นจะเปิดใน จ.ภูเก็ต ในช่วงไตรมาสที่ 1 และในประเทศมาเลเซีย 1 แห่งช่วงไตรมาสที่ 4 นอกจากนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นพื้นที่ใด 

ปีหน้าตั้งวางงบ 1.5หมื่นล.

ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุนในปีหน้าอยู่ที่ 1.5-1.7 หมื่นล้านบาท โดยทิศทางการเติบโตของรายได้ในปี 2561 มองว่าจะเติบโตจากปีนี้ระดับ 20-25% ผลจากการซ่อมแซมศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ดแล้วเสร็จ และการเปิดศูนย์การค้าใหม่ส่วนการลงทุนของบริษัทร่วมกับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DTC) สำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม (Mixed-Use Development) ความคืบหน้าล่าสุด บริษัทได้เข้าไปถือหุ้นเพิ่มขึ้นในหลายส่วนอย่างในด้านธุรกิจรีเทล

แปลงกองอสังหาฯเป็นรีท

อย่างไรก็ตาม แผนการแปลงกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท เป็นกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ รีทนั้นเบื้องต้นบริษัทอยู่ระหว่างการรอการประชุมผู้ถือหุ้นที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 ส.ค. หากการดำเนินการแล้วเสร็จ บริษัทจะยื่นขออนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อดำเนินการ และคาดว่าจะแปลงกองทุนแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

โดยบริษัทมีแผนจะขายสินทรัพย์ คือศูนย์การค้าเซ็นทรัล บีช พัทยา และโรงแรมฮิลตัล พัทยา เข้าสู่กองทุน โดยมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ที่ 11,908 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 นั้น บริษัทมีศูนย์การค้าทั้งสิ้น 30 แห่ง บริษัทมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 93% รายได้อยู่ที่ 7,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,483 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8%