ภาครัฐเร่งช่วยปชช. เหตุน้ำท่วมชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก

ภาครัฐเร่งช่วยปชช. เหตุน้ำท่วมชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก

ผู้ว่าฯเชียงราย-ผู้ว่าฯท่าขี้เหล็ก เร่งช่วยเหลือประชาชน หลังน้ำท่วมชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายพร้อมด้วยนายติน วิน ฉ่วย ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็กและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าตรวจสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณสะพานมิตรภาพ-ไทยเมียนมา เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำและให้การช่วยเหลือภายหลังฝนที่ตกหนักส่งผลทำให้น้ำป่าหลากมาตามลำน้ำสายทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนและร้านค้าซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเป็นบริเวณกว้าง

โดยพบว่า ล่าสุดระดับน้ำได้เริ่มลดระดับลงบ้างแล้วหลังฝนหยุดตกแต่ปริมาณยังสูงกว่า 4 เมตร ทำให้น้ำยังคงท่วมขังตามหมู่บ้านและชุมชนของทั้งสองฝั่งอยุ่กว่า 1,000 ครัวเรือน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะร้านค้าในตลาดสายลมจอย เขตเทศบาลตำบลแม่สายและตลาดท่าล้อ ของจังหวัดท่าขี้เหล็ก ที่น้ำบางจุดยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทรัพย์สินบางส่วนของพ่อค้าแม่ค้าที่ขนย้ายไม่ทันได้รับความเสียหาย

ในเบื้องต้นทางจังหวัดจึงได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มกว่า 1,200 ชุดไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน อย่างไรก็ตามสถานการณ์โดยรวมพบว่าเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากในพื้นที่เมืองสาด จังหวัดท่าขี้เหล้ก ที่อยู่ทางต้นน้ำของลำน้ำสายยังมียังมีฝนตกหนัก และมีน้ำไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นท่วมฉับพลันได้ทุกเวลา

นายณรงค์ศักดิ์ เปิดเผยว่าจากการประเมินสถานการณ์ล่าสุดพบว่ายังไม่น่าห่วงมากนักเนื่องจากระดับน้ำชะลอตัว แม้ก่อนหน้านี้ 2 วันจะมีการสั่งการให้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังคนและอุปกรรืแต่ด้วยปริมาณน้ำมากและไหลมาอย่างรวดเร็วทำให้ทรัพย์สินบางส่วนเสียหายเพราะขนย้ายไม่ทัน แต่ที่เหลือก็ได้ให้กำลังทุกฝ่ายรวมมทั้งประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาทำการขนย้ายไว้ที่ปลอดภัยแล้ว

ส่วนน้ำที่ท่วมชุมชนต่างๆแม้จะมีการป้องกันแต่ปริมาณน้ำที่สูงก็ทำให้เกิดรูรั่วตามอาคารซึ่งก็ได้ให้ทางเทศบาลเร่งซ่อมแซมอุดรูรั่วแล้วเชื่อว่าคงรับมือไหว หากน้ำยังคงอยู่ระดับนี้ก็ไม่ทำให้มีอะไรเสียหายเพิ่มเติม แต่ก็ได้แจ้งให้ชาวบ้านที่ประสบภัยแล้วหากต้องการอพยบไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยในระยะนี้ก็จะช่วยทำการอพยบทันทีซึ่งได้เตรียมสถานที่ไว้แล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังรักถิ่นที่อยู่อาศัยจึงไม่ต้องการย้ายออกจากพื้นที่