ยธ.ปรับแผนรับมือยาเสพติดล็อตใหญ่ทะลักเข้าไทย ชี้สามเหลี่ยมทองคำยังมีศักยภาพในการผลิต เร่งขยายความร่วมมือปราบปรามระหว่างประเทศ
นายสุวพันธ์ุ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส) ครั้งที่ 1/2560 เพื่อพิจารณาแผนประชารัฐร่วมใจปลอดภัยยาเสพติดปี 2561 ว่า สิ่งที่ต้องการคือความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหยุดยั้งกำลังการผลิตยาเสพติดจากประเทศต้นทาง และความร่วมมือในปราบปรามการลักลอบขนส่งและลำเลียง รวมถึงจุดหยุดพักรอส่งยาเสพติด ซึ่งในช่วงนี้จะพบว่ามีการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่เพิ่มมากขึ้น โดยมีผลมาจากการผลิตที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นและความร่วมมือในการปราบปรามระหว่างประเทศ แต่ไม่ต้องการให้ด่วนสรุปว่าการจับกุมที่เพิ่มมากขึ้นหมายถึงความต้องการเสพในประเทศจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย จำนวนยาเสพติดที่มากขึ้นเกิดจากประเทศไทยเป็นทั้งตลาดผู้เสพ และทางผ่านที่จะส่งไปยังที่อื่นด้วย สิ่งที่สะท้อนน่าจะเป็นความต้องการยาเสพติดของทั้งโลกที่ยังมากอยู่
แหล่งผลิตใหญ่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำยังดำเนินการได้อยู่ และแหล่งขนส่งในประเทศไทยยังมีอยู่ ดังนั้นหน้าที่ของไทยคือการลดปัจจัยสนับสนุนทุกอย่างให้ได้ รวมถึงลดจำนวนผู้เสพโดยการดึงเข้าสู่ระบบบำบัดรักษา ซึ่งสำนักงบประมาณจะเข้า มกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการป้องกันและบำบัดรักษาในแต่ละปีมีมากกว่า 1,000 ล้านบาท จึงต้องทำงานให้คุ้มค่ากับงบประมาณด้วย สิ่งที่หารือกับป.ป.ส.คือทำอย่างไรจึงจะลดศักยภาพการผลิตยาเสพติดลงให้ได้นอกจากนี้ยาเสพติดจำนวนมากยังถูกส่งเข้ามาในไทยซึ่งเป็นภาระในเรื่องการปราบปรามตามเส้นทางลำเลียงต่างๆ"นายสุวพันธ์ุกล่
ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้า ดังนั้นป.ป.ส.จึงเสนอแผนระยะยาวในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นแผน 5 ปี ( 2560-2564) ร่วมกับกอ.รมน.ส่วนหน้าในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาให้เบ็ดเสร็จจำนวน
500-600 หมู่บ้านในเขตอ.จะนะ เทพาและสะบ้าย้อย โดยในปี 2560 รัฐบาลอนุมัติงบประมาณจำนวน 60 ล้านบาทและจะเพิ่มเป็น 100 ล้านบาทในปี 2561 ซึ่งป.ป.ส.จะร่วมกับกอ.รมน.ส่วนหน้าเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติปลายเดือนสิงหาคมนี้
“ในพื้นที่ 3 จังหวัดมีประชากรจำนวน 2ล้านคน เราพบว่ามีผู้เสพยาเสพติดประมาณ 60,000 คน จากกลุ่มที่มีความเสี่ยง 200,000 คน ถือเป็นเรื่องน่าวิตกมาก โดยยาเสพติดที่นำมาขายในพื้นที่นี้พบว่าถูกลำเลียงมาจากเขตจังหวัดชายแดนภาคเหนือ หากไม่เร่งแก้ไขโดยใช้โครงการยารานันบารูให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเข้มข้นอาจทำให้แก้ไขปัญหาได้ยากเพราะเจ้าหน้าที่รัฐมีไม่เพียงพอที่จะลงไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในชุมชน”แหล่งข่าวระบุ