แพลทินัมฯปักธงผู้นำย่านการค้า‘ประตูน้ำ’

แพลทินัมฯปักธงผู้นำย่านการค้า‘ประตูน้ำ’

เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป กางแผน 5 ปี มุ่งพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ใจกลางกรุงเทพฯ เล็งสยายปีก “ศูนย์การค้า-โรงแรม-อาคารสำนักงาน”  เปิดกว้างพันธมิตรลงทุนทุกรูปแบบ พร้อมดัน “ย่านการค้าประตูน้ำ” ทำเลยุทธศาสตร์สู่ “ฮับค้าส่ง” อาเซียน  

ย่านใจกลางกรุงเทพฯ นับเป็นทำเลศักยภาพสูงเอื้อต่อการลงทุนทุกรูปแบบรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเติบโตของกำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนไทยปีละกว่า 30 ล้านคน และย่านการค้าสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ

นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ กล่าวว่า เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ได้วางวิสัยทัศน์ธุรกิจใหม่มุ่งขยายการลงทุนและพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงแรม และอาคารสำนักงาน ซึ่งทั้ง 3 ธุรกิจมีโอกาสทางการตลาดที่ดี มีศักยภาพการขยายตัวและสร้างรายได้ที่ต่อเนื่องให้บริษัท หลังจากนี้บริษัทจะมองหาแลนด์แบงก์ หรือการได้มาซึ่งสิทธ์ในการเช่าที่ดิน จากนั้นจึงจะพิจารณาความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการ 

ทั้งนี้ บริษัทเน้นการลงทุนต่อยอดทำเลยุทธศาสตร์ย่านการค้าประตูน้ำ ที่ได้เปิดให้บริการ ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ มาร่วม 12 ปี นับเป็น “เบอร์ 1” ในย่านประตูน้ำ ซึ่งถือเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของ เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป 

“เบื้องต้นจะเน้นขยายการเติบโตทางธุรกิจในย่านใจกลางเมืองประตูน้ำ ที่เชื่อว่ายังมีโอกาสในการขยับขยายต่อยอดได้อีกมากตามการเติบโตของเมืองและอำนาจซื้อที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งนักท่องเที่ยว” 

ในการขยายการลงทุนยังได้เปิดกว้างความร่วมมือพันธมิตรทุกรูปแบบเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงธุรกิจ

ดัน‘เดอะมาร์เก็ตแบงคอก’แลนด์มาร์ค

การลงทุนระยะ 5 ปียังคงดำเนินการตามแผนเดิมที่มีการลงทุนเมกะโปรเจค “เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก” ศูนย์ค้าปลีกขนาดใหญ่ 1.95 แสนตร.ม. มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะประกอบด้วยด้วย พื้นที่ค้าปลีก 4 หมื่นตร.ม. เปิดให้บริการปลายปี 2561 นอกจากนี้จะมีส่วนของอาคารสำนักงาน และโรงแรม ทยอยเปิดบริการ คาดว่าโครงการสมบูรณ์ในปี 2564 

เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก จะเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ที่ล่าสุดได้มีการปรับสถาปัตยกรรมบริเวณด้านหน้าเพื่อสร้างเอกลักษณ์และสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์  รองรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ บริษัทมีการลงทุนโรงแรมที่สมุย 2 แห่ง มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท อีกด้วย 

“ระหว่างทางอาจจะมีการลงทุนใหม่ซึ่งมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ รวมทั้งโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นความท้าทายและต้องใช้เวลา” 

หนุนประตูน้ำฮับค้าส่งอาเซียน

อย่างไรก็ตาม ภารกิจเร่งด่วนของเดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ในฐานะผู้ค้าส่งรายใหญ่ของย่านประตูน้ำต้องการผลักดันและต่อยอดธุรกิจก้าวสู่ศูนย์กลาง (ฮับ) ค้าส่งแห่งภูมิภาคอาเซียน จากการเติบโตของลูกค้าในอาเซียนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายตัวของฐานลูกค้านักท่องเที่ยวซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ทำให้อัตราหมุนเวียนของ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เติบโตสูง 

ที่ผ่านมาได้มีการศึกษาและหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการเพิ่มศักยภาพของความเป็นฮับค้าส่งของย่านประตูน้ำในรูปแบบต่างๆ  รวมทั้งโครงการที่ดำเนินการแล้ว เช่น ทางเชื่อมลอยฟ้า “ราชประสงค์ วอล์ก”  พบว่ามีผู้ใช้บริการมากถึง 5.8 หมื่นคนต่อวัน เชื่อมเส้นทางย่านการค้าราชประสงค์และประตูน้ำ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการศึกษารูปแบบความร่วมมือต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพย่านการค้าประตูน้ำมากขึ้น 

ศูนย์ค้าส่งแฟชั่น เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์  มีลูกค้าต่างชาติหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย รวมทั้้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม อินเดีย และพม่า 

ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีรายได้รวม 997 ล้านบาท เติบโต 9% กำไรสุทธิ 371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากรายได้ธุรกิจให้เช่าและบริการ ขยายตัวสูง 15%  ธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 14% และโรงแรม 6%  บริษัทมีกำไรขั้นต้นสำหรับธุรกิจหลักเฉลี่ย 62%  เป็นจำนวน 575 ล้านบาท หรือเติบโต 15% ปีนี้บริษัทคาดมีรายได้ 2,000 ล้านบาท 

รายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการเติบโตจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเช่าพื้นที่ และการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์  รวมทั้งการเปิดบริการพื้นที่ให้เช่าแห่งใหม่ “ตลาดนีออน” ส่วนรายได้จากการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์อาหารเพิ่มมากขึ้น โดยภาพรวมครึ่งปีแรกมีจำนวนคนเข้าศูนย์เพิ่มขึ้น 15%  

ทางด้านรายได้จากกิจการโรงแรมเพิ่มขึ้นจากอัตราค่าห้องพักอาศัยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากกลุ่มลูกค้าประชุมสัมนา อินเซนทีฟ ที่เพิ่มสูงขึ้น กลุ่มลูกค้าดังกล่าว มีอัตราค่าห้องพักอาศัยอยู่ในระดับราคาที่สูง ประกอบกับ โรงแรมได้มีการนำเสนอให้ลูกค้าที่เข้าพักมีการอัพเกรดห้องพักด้วยแพคเกจที่น่าสนใจและคุ้มค่าจึงส่งผลให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6%

สำหรับ โครงการ “ตลาดนีออน-ดาวน์ทาวน์ไนท์มาร์เก็ต” ซอยเพชรบุรี 23-29  มีกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใช้บริการมากขึ้น โดยบริษัทเตรียมงบประมาณในการปรับโซนและเพิ่มวันจำหน่าย จาก 5 วันต่อสัปดาห์ เปิดขายทุกวันตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป