ว่อน! ตัวเต็งชิง 'อธิการบดี มนพ.' ถูกจี้สอบวินัยปมฉาว?

การสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) กำลังถูกจับตายิ่ง เพราะวันศุกร์ที่ 18 สิงหาคมนี้ บรรดาผู้ที่มีสิทธิ์เข้ารับการสรรหาจำนวน 6 ราย จะต้องเข้านำเสนอวิสัยทัศน์ คนละไม่เกิน 20 นาที และตอบข้อซักถามไม่เกินคนละ 20 นาที ที่ห้องราชพฤกษ์ ชั้น 5 อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งผู้ที่ไม่เข้าสู่การนำเสนอวิสัยทัศน์ตามวันเวลาข้างต้น ถือว่าสละสิทธิ์

ท่ามกลางปมตั้งข้อสังเกตกรณีคณะกรรมการสรรหาฯ ประกาศผู้ถูกสรรหาทั้ง 6 ราย เพื่อตรวจสอบคุณสมบัตินั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารที่เครือข่ายชุมชนและสังคมที่ถูกต้องตามกฏหมาย ได้ส่งชื่อผู้เห็นสมควรเป็นอธิการบดี แต่เหตุใดคณะกรรมการสรรหาฯจึงไม่นำมาชี้แจง ว่ามีเท่าไรอย่างไร มีสาเหตุเพราะอะไร ถึงไม่มีการพูดถึง?

แม้ว่า ศาสตราจารย์ นายแพทย์ วุฒิชัย ธนาพงศธร ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ จะไม่สนใจประเด็นดังกล่าวหรือไม่อย่างไรก็ตามที

ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า หลัง 6 ผู้เข้าสรรหาฯได้เสนอวิสัยทัศน์ 18 ส.ค.แล้ว "คณะกรรมการสภาฯมนพ." จะมีการประชุมในวันถัดไปทันที (19ส.ค.) หรือไม่ ถ้าเป็นความจริงก็อาจจะถูกตั้งข้อสังเกตว่ารวบรัดเกินไปหรือไม่

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก รองอธิการบดี มนพ. ฝ่ายนโยบายและแผน และเทคโนโลยีสารสนเทศ และในฐานะเลขานุการสภา มนพ. ควรชี้แจงต่อสาธารณชนในเรื่องดังกล่าวว่าเท็จจริงเป็นเช่นไร?

น่าขบคิดอยู่เหมือนกันว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก ในฐานะเลขานุการสภา มนพ. และมีชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นอธิการบดีด้วย จะมีบทบาทในเรื่องการประชุมหรือไม่อย่างไร

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางการสรรหาอธิการบดีมนพ.กำลังงวดเข้ามาทุกขณะ ปรากฎว่ามีเอกสารชิ้นหนึ่ง ถูกส่งต่อเผยแพร่ ระบุว่า มหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคอีสานแห่งหนึ่ง ส่งหนังสือขอข้อมูลหลักฐานคำสั่งศาล กรณีผู้ถูกสรรหาเข้าชิงอธิการบดี มนพ. รายหนึ่ง มีคดีความจนเป็นเหตุให้ถูกร้องสอบวินัยหรือไม่

ทั้งนี้ ไม่ทราบว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก เคยมีบทบาทหน้าที่อะไรที่มรภ.กาฬสินธุ์ และปัจจุบันเป็นม.กาฬสินธุ์แล้ว หรือไม่อย่างไร

เหนืออื่นใดแล้ว มหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) จะผ่านพ้นการสรรหาอธิการบดีอย่างราบรื่นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่คณะกรรมการสรรหาฯที่จะทำหน้าที่ได้อย่างกระจ่างชัด และปราศจากข้อสังเกตหรือข้อสงสัย ย่อมเป็นการดีต่อทุกฝ่าย แต่ถ้าผิดไปจากนั้น ก็น่าหวั่นใจส่อเป็นเชื้อไฟแห่งความวุ่นวายไม่จบสิ้น..หรือไม่จริง??