'ชาวสวนมะนาว' วอนภาครัฐช่วย หลังราคาตกต่ำ

'ชาวสวนมะนาว' วอนภาครัฐช่วย หลังราคาตกต่ำ

ผลผลิตมะนาวที่ล้นตลาดในช่วงนี้ ทำให้ชาวสวนที่ จ.อุบลราชธานี กำลังเดือดร้อน จากราคาตกต่ำ ไม่มีพ่อค้ารับซื้อต้องปล่อยทิ้ง-บางรายต้นโค่นเพื่อปลูกพืชชนิดอื่นแทน

น.ส.ณัฐปภัสร์ มานุช อายุ 33 ปี เจ้าของสวนมะนาวแป้นพัทธนันท์ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่าช่วงนี้ราคามะนาวตกต่ำขายส่งกิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งทุกปีจะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 25 บาทเป็นอย่างต่ำ และขายคัดลูกใหญ่กลางเล็กลูกละ 2-3 บาท ซึ่งปีนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่มะนาวมีราคาถูกที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่สวนของตนเองได้ลูกมะนาวจำนวน 3 ไร่ ผลผลิตออกสู่ตลาดไม่มีพ่อค้าแม่ค้าต้องปล่อยให้อยู่บนต้น และหล่นทิ้งทำให้ไม่มีรายได้เข้ามาในครอบครัว ในช่วงที่มะนาวยังปกติมะนาวสามารถสร้างรายได้ให้ปีละ 2-3 แสนบาท ทั้งนี้นอกจากลูกมะนาวแล้วยังสามารถขายต้นกล้ามะนาวได้อีกด้วย

ณัฐปภัสร์ บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคามะนาวตกลงมากเนื่องจาก 1-2 ปี ก่อนได้มีการส่งเสริมให้ปลูกมะนาวมากขึ้นจนทำให้มีเกษตรกรหาซื้อต้นพันธ์มะนาวไปปลูกเป็นจำนวนมากทำให้ทุกบ้านมีมะนาวไว้รับประทานเองทำให้มะนาวเกินความต้องการของผู้บริโภคทำให้ราคาตกต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากมะนาวของประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งเข้ามาขายในถูกกว่า อยู่ที่ประมาณ 600 ลูกต่อ 200 บาท พ่อค้าคนกลางก็จะไปเอาทางนั้นมากกว่า จึงอยากให้ทางภาครัฐออกมาช่วยเหลือสอนการแปรรูปมะนาวในรูปแบบต่างๆด้วย

ด้านนายธนโชติ ประวัติ เจ้าของสวนประวัติวงศ์ เจ้าของรายการ ลุยถึงไร่ ไปถึงสวน ทาง ยูทูปชาแนล กล่าวถึงสถานการณ์ของสวนมะนาวในปีหน้าว่า จะ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากราคามะนาวตกต่ำจะส่งผลต่อปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้เกษตรกรบางรายโค่นต้นมะนาวแล้วไปปลูกพืชชนิดอื่น ซึ่งบางรายปล่อยสวนมะนาวไม่ดูแลก็จะทำให้ต้นโทรม ผลผลิตจะขาดตลาดราคาจะกลับมาสูงขึ้นเหมือนเดิม

ปัญหาอีกอย่างของการทำให้ราคาตกคือการจำหน่ายกล้าพันธุ์มะนาวของไทยให้ประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากมะนาวของไทยจะสวยมีคุณภาพประเทศเพื่อนบ้านจะมาขอซื้อไปปลูกที่ประเทศของตนเองก่อนจะนำกลับมาขายให้ประเทศไทยในราคาที่ถูกกว่าเพราะต้นทุนแรงงานต่างๆก็ถูกกว่า