แฉ! นายทุนจีนรุกที่ราชพัสดุ1,200ไร่ จ่อตรวจอ.ปากช่อง4,000ไร่

แฉ! นายทุนจีนรุกที่ราชพัสดุ1,200ไร่ จ่อตรวจอ.ปากช่อง4,000ไร่

บิ๊กดีเอสไอแฉ! นายทุนจีนรุกที่ราชพัสดุ1,200ไร่ ปลูกแก้วมังกรส่งออก จ่อตรวจที่หลวงอ.ปากช่อง ถูกบุกรุก4,000ไร่

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) - พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ( 17ส.ค.) ดีเอสไอจะลงพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีนักธุรกิจชาวจีนได้กว้านซื้อสิทธิจากชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ราชพัสดุจำนวน 1,200 ไร่ และปลูกพืชผลทางการเกษตร ประเภท แก้วมังกร มะนาว มะม่วง เต็มแปลง เพื่อส่งออกผลไม้ไปจำหน่ายที่ประเทศจีน ซึ่งขณะนี้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายอำเภอของจ.กาญจนบุรี

จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เป็นการซื้อที่ดินมือเปล่าจากชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ โดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อาจไม่ทราบการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย จึงมีการเรียกเก็บภาษีบำรุงพื้นที่ เสมือนเป็นการรับรองว่าการกระทำดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นทางจังหวัดได้มีหนังสือเวียนแจ้งไปยังองค์กรปกครองในพื้นที่ห้ามเก็บภาษีในพื้นที่แล้วก็ตาม จึงจำเป็นต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย ถือเป็นพื้นที่ความมั่นคงและมีชายแดนติดกับประเทศพม่า ในปี 2481 มีการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินให้พื้นที่ที่มีบริเวณที่ติดกับแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเป็นพื้นที่ความมั่นคง และให้ทหารสามารถเข้าใช้ประโยชน์ในการฝึก เพราะสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่า ต่อมาเมื่อทหารเลิกใช้จึงมีประกาศให้เป็นพื้นราชพัสดุโดยให้กรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล ซึ่งขณะนี้สภาพพื้นที่แม้จะเปลี่ยนไปแล้ว จึงเห็นว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นทหาร กรมป่าไม้ กรมธนารักษ์จะต้องหารือในเรื่องการจัดการใช้ทรัพยากรในพื้นที่รับผิดชอบ เช่น อาจให้เช่าใช้ประโยชน์ เพื่อป้องกันปัญหาการบุกรุก หรือการถือครองที่ดินของนายทุน โดยกฎหมายเปิดโอกาสให้ผู้ประสงค์จะเข้าทำประโยชน์สามารถมาเช่าพื้นที่ได้ ทั้งนี้ดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันออกแบบโครงสร้างการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ราชพัสดุเพื่อให้รัฐมีรายได้จากการเช่าใช้ที่ดินราชพัสดุ

แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินของโครงการโชคชัย 3 ใน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 4,000ไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอกำหนดจะลงพื้นที่ในวันที่ 17ส.ค.นี้ ล่าสุด นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอเลื่อนกำหนดการลงพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากในวันที่ 22 ส.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ครม.สัญจรในจ.นครราชสีมา จึงไม่ต้องการให้มีประเด็นข้อขัดแย้งในพื้นที่ ในส่วนของการดำเนินคดีและการตรวจสอบกระทรวงไม่มีข้อขัดข้องและไม่แทรกแซง เพียงแต่ขอให้ผ่านพ้นครม.สัญจรไปก่อน

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า สำหรับเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ถูกตรวจสอบจำนวน 4,000 ไร่ เริ่มต้นจากประชาชนในต.ขนงพระมาร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมเข้าไปตรวจสอบ ตั้งแต่ปี 2558 โดยพบว่ามีเอกสารสิทธิที่ดินหลายแปลงออกนอกเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง และหลายแปลงเป็นออกเอกสารนค.3โดยใช้ชาวบ้านเป็นนอมินีถือครองแทนต่อมาได้ขายต่อให้นายทุน ระหว่างตรวจสอบพบว่ามีการขายที่ดินบางแปลงที่ออกทับพื้นที่สาธารณะไปให้ผู้ถือครองรายอื่น จึงเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบต่อไปว่า ที่ดินที่ออกไม่ชอบโดยกฎหมายนั้นมีการขายเปลี่ยนมือได้อย่างไร