ร้องดีเอสไอช่วย!! เกือบ 5 ปียังจับคนร้ายไม่ได้

ร้องดีเอสไอช่วย!! เกือบ 5 ปียังจับคนร้ายไม่ได้

ร้อง "ดีเอสไอ" ช่วยจับคนร้ายจ่ายเช็คเด้ง ระบุผ่านไปเกือบ 5 ปีคดีไม่คืบหน้า มีผู้เสียหาย 20 ราย วงเงิน 30 ล้าน คดีจะขาดอายุความในอีก 2 เดือนนี้

นางจิดาภา เขียวนาวะ พร้อมด้วยนายนพพร ทองชนะ ผู้เสียหายจากการถูกหลอกยืมเงิน แต่จ่ายเช็คเด้งไม่สามารถขึ้นเงินได้ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับคนร้าย ซึ่งคดีจะหมดอายุความ 5 ปี ภายในเดือนต.ค.นี้ โดยมีพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้รับหนังสือ

นางจิดาภา เปิดเผยว่า เมื่อปี 2555 นางจำรูญ (สงวนนามสกุล) เพื่อนสนิทได้ชักชวนให้ตนขายที่ดินใน อ.เวียงสะ จ.สุราษฏร์ธานี จำนวน 11 ไร่ ได้เงินประมาณ 2.1 ล้านบาท จากนั้นนางจำรูญได้ขอยืมเงินตน อ้างว่าจะนำไปใช้ดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 10 ที่ยืมมาเพื่อซื้อที่ดิน โดยนำเช็คมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาทมาค้ำประกัน ผ่านไป 1 เดือนไม่สามารถติดต่อเพื่อนสนิทรายนี้ได้ และเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินก็ทราบว่าเช็คเด้ง จึงไปแจ้งความกับสภ.เวียงสะ และออกหมายจับผู้ต้องหาในข้อหาออกเช็คเพื่อชำระหนี้ โดยเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งมีอำนาจแค่ในพื้นที่เท่านี้ เชื่อว่าหากพนักงานสอบสวนประสานไปยัง สภ.อื่นให้ช่วยติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับน่าจะจับกุมตัวได้ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลและยังวนเวียนอยู่ในบริเวณ อ.เวียงสะ จึงไปร้องเรียนหลายหน่วยงาน รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะคดีกำลังจะหมดอายุความในวันที่ 11 ต.ค.60

ทั้งนี้ พวกตนได้ติดตามและสอบถามกับลูกสาวผู้ต้องหาก็ยืนยันไม่ทราบว่าผู้ต้องหาอยู่ที่ใด โดยผู้ต้องหารายนี้ยังได้หลอกลวงชาวบ้านใน อ.เวียงสะ ในลักษณะนี้อีก 20 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

ด้านพ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ แต่หมายจับไม่ใช่ของดีเอสไอ จึงไม่สามารถตามจับผู้ต้องหาให้ได้ แต่จะประสานไปที่ตำรวจภูธรภาค 8 ให้ทราบและช่วยเร่งติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี