สมาร์ทซิตี้บูมเอเชียแปซิฟิก“ไทยแลนด์ 4.0”หนุนไทยตื่นตัว

สมาร์ทซิตี้บูมเอเชียแปซิฟิก“ไทยแลนด์ 4.0”หนุนไทยตื่นตัว

“ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็ม” ชี้กระแสลงทุนสมาร์ทซิตี้บูมเอเชียแปซิฟิก เมืองขนาดใหญ่เร่งเตรียมความพร้อมรับเขตเศรษฐกิจใหม่ภูมิเอเชีย ประเมินอินฟราฯ ไอทีเริ่มดี แต่ยังขาดเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก-บูรณาการใช้งานเป็นระบบ แนะเร่งมือก่อนเพื่อนบ้านแซง

นายคีท โรสคาเรล ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยสาธารณะและเมืองอัจฉริยะ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็ม พีทีอี ลิมิเต็ด กล่าวว่าเมืองขนาดใหญ่ทั่วเอเชียแปซิฟิกต่างเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อมการเกิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจใหม่ในภูมิเอเชีย

โดยคาดการณ์ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงการไหลเงินลงทุนจากทั่วโลกเข้ามายังเอเชีย ประเด็นดังกล่าวมีส่วนสำคัญทำให้เกิดการขยายตัวของพื้นที่เมือง จำนวนประชากรเพิ่มในทิศทางเดียวกันขนาดเศรษฐกิจของเมืองในประเทศกำลังพัฒนาจะมีขนาดใหญ่ขึ้น

ดังนั้นเพื่อให้บริหารจัดการเมืองที่มีประชากรจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายประเทศพัฒนาโครงการเมืองอัจฉริยะ รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต

แม้ว่าหลายเมืองเริ่มมีความพร้อมเรื่องสาธารณูปโภค เทคโนโลยี ระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งได้ทุ่มเงินลงทุนไปกับการวางระบบเพื่อปูทางใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (ไอโอที) รวมไปถึงเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไปยังฐานข้อมูลองค์กร แต่ทั้งนี้ การนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและสังคมยังมีอยู่น้อยมาก จากข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ขาดการบูรณาการ และเชื่อมต่อข้อมูลอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ขาดเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำมาใช้ประโยชน์แบบเรียลไทม์ หรือ เกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับตลาดที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก เช่น ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เมื่อปี 2559 ภาพรวมตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ ในแต่ละปีกระทั่งถึง ปี 2563 มีแนวโน้มเติบโตได้ปีละกว่า 18.5%

ขณะที่เฉพาะประเทศไทยเริ่มใช้งานแพร่หลาย โดยเติบโต 19% นับเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพขยายตัวสูงติดอันดับต้นๆ ของภูมิภาค แนวโน้มที่น่าสนใจจากเดิมการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่นเดียวกับตลาดที่เติบโตแล้วอย่างยุโรปและอเมริกา แต่หลังจากนี้จะได้เห็นผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่พัฒนามาเพื่อตลาดเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ

ส่วนบทบาทของบริษัท ในฐานะผู้ให้บริการและที่ปรึกษา เร่งเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยี รองรับการใช้งานบนคลาวด์ ไอโอที และล่าสุดนำเสนอโซลูชั่นด้านการพัฒนาความปลอดภัยสาธารณะสำหรับสมาร์ทซิตี้ ซึ่งโดดเด่นด้วยความสามารถที่จะรวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิดรวมถึงระบบความปลอดภัยสาธารณะที่ทำงานแยกกัน เป้าหมายสำคัญต้องการช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถวางแผนการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายมารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด กล่าวว่า นโยบายไทยแลนด์ 4.0 มีส่วนอย่างมากในการผลักดันเรื่องการเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี ส่งผลให้ทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนลงทุนวางระบบเพื่อรองรับสมาร์ทซิตี้ ใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้า

อย่างไรก็ดี ความปลอดภัยสาธารณะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักสำหรับขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากประโยชน์มีผลทั้งแง่ความมั่นคงปลอดภัย ป้องกันการก่อการร้าย เก็บรวบรวมหลักฐาน รวมไปถึงเพิ่มศักยภาพเชิงเศรษฐกิจ

ที่ผ่านมา บริษัทได้มีส่วนร่วมกับโครงการภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ โซลูชั่นด้านบิ๊กดาต้าชื่อว่า เพนทาโฮ่ เอ็นเตอร์ไพรซ์(Pentaho Enterprise) ที่มีความสามารถในการจัดการรวมข้อมูล จัดทำรายงาน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก นำไปใช้สำหรับวิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา

ปัจจัยผลักดันความสำเร็จสมาร์ทซิตี้ ต้องมีความพร้อมด้านบุคลากร ชัดเจนเรื่องแนวทาง กระบวนการทำงาน และมีการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม สำคัญต้องมีความร่วมมือกันจากหลายภาคส่วน

“หากไม่เร่งมือ มีโอกาสที่ไทยจะถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้า เม็ดเงินลงทุนหายไปจากประเทศ เข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะกับองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นควรเริ่มต้นเริ่มจากหน่วยงานเล็กๆ หรือเอกชนก่อน”