ไล่จับได้! หนุ่มใหญ่วัย59 คดีพยายามขืนใจยายตาบอดวัย77

ที่สน.ภาษีเจริญ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รอง ผกก.ป.สน.ภาษีเจริญ ร่วมกันจับกุมตัว นายยูนิตย์ หรือ “อู๊ด” จันทราช อายุ 59 ปี ชาวบางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาบุกรุกเคหสถานและกระทำอนาจารผู้เสียหายโดยจับกุมตัวได้ขณะวิ่งหลบหนีไปภายในซอยเพชรเกษม 33 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.

พ.ต.อ.ญาณพงศ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ที่ผ่านมา นายยูนิตย์ ผู้ต้องหารายนี้ได้บุกรุกเข้าไปในบ้านย่านเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ และพยายามข่มขืน น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 77 ปี หญิงชราตาบอดซึ่งพักอยู่เพียงลำพังในบ้าน โชคดีที่ น.ส. เอ ร้องขอความช่วยเหลือเป็นเหตุให้ลูกสาวซึ่งอยู่บ้านติดกันได้ยินจึงวิ่งไปช่วย น.ส.เอ และตะโกนเรียกชาวบ้านมาไล่กวดล้อมจับ กระทั่ง พ.ต.ท.ชาญกฤษ เย็นทวีจิตร สวป.สน.ภาษีเจริญ นำกำลังไปสมทบจนสามารถจับกุมตัว นายยูนิตย์ เอาไว้ได้ที่กลางซอยเพชรเกษม 33

จากการสอบสวน น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ลูกสาวผู้เสียหาย เล่าว่า แม่ตนป่วยเป็นโรคต้อที่ตาทำให้ตาบอดมาได้ 2 ปีแล้ว ประกอบกับมีอาการหลงๆ ลืมๆ ตามปกติในช่วงเวลากลางวันแม่จะพักผ่อนอยู่ในบ้านคนเดียวเนื่องจากตนและญาติคนอื่นๆ จะไปทำงานกันหมด ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนกำลังจะอาบน้ำในบ้านข้างๆ เตรียมตัวไปทำงานโรงงาน ได้ยินเสียงแม่ร้องแปลกๆ จึงนุ่งกระโจมอกวิ่งออกไปดู พบแม่ถูกนายยูนิตย์ ผลักลงให้นอนหงายอยู่ในบ้าน โดยนายยูนิตย์ คร่อมอยู่บนร่างใช้มือล้วงเข้าไปในผ้าถุงแม่และกำลังถอดกางเกงตัวเองออก ตนจึงวิ่งไปผลักนายยูนิตย์ ออกแล้วตะโกนร้องขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านช่วยกันไล่จับ

ด้าน นายยูนิตย์ ผู้ต้องหา ให้การในสภาพเมามายว่า อดีตตนเคยมีอาชีพขับรถเมล์รับจ้างและรถแท็กซี่ ปัจจุบันว่างงานและเร่ร่อนไปพักตามที่สาธารณะต่างๆ ย่านศาลเจ้าพ่อเสือ ถนนตะนาว แต่ก่อนหน้านี้เคยมาหาเพื่อนซึ่งเป็นญาติของ น.ส. เอ โดยตนจะเรียก น.ส.เอ ว่า“แม่” ทุกคำ เพราะ น.ส.เอ เคยให้ข้าวให้น้ำตนกินยามตกยาก ส่วนในวันนี้เมื่อช่วงเช้าตรู่ตนเดินทางไปรับยารักษาอาการโรคสมองตีบที่ รพ.พระนั่งเกล้า พอรับยาแล้วจึงแวะซื้อเหล้าขาวเดินทางมาหาเพื่อน จำนวน 1 กั๊ก ราคา 25 บาท หวังจะชวนเพื่อนดื่มด้วยกันแต่ไม่พบเพื่อน จึงชักชวน น.ส. เอ ดื่มเหล้า แล้วสะกิดลูบคลำกันไปมา จากนั้นลูกสาวของ น.ส.เอ ก็วิ่งเข้ามาในบ้านกล่าวหาว่าตนพยายามจะข่มขืน น.ส.เอ ซึ่งตนไม่ได้ลงมือทำตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะให้การภาคเสธก็ถือเป็นสิทธิของเขา เขาบอกว่าเข้าไปในบ้านจริงแต่แค่ตบเข่าคุณยายชวนกินเหล้า ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การของลูกสาวคุณยายที่เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาแก่ นายยูนิตย์ ว่า บุกรุกเคหสถานและกระทำอนาจารบุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี โดยตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนนำตัว น.ส.เอ ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศิริราช เพื่อนำผลมาประกอบในสำนวนคดีต่อไป