เปิดสถิติ ‘หุ้นไทย’ โตเฉลี่ยปีละ8-10%

“มอนิ่งสตาร์” เตือนระวังลงทุนหุ้น หลังผลตอบแทนทั้งหุ้นไทย-เทศ ช่วง 5 ปีย้อนหลัง สูงกว่า 8-10% ต่อปี แนะกระจายพอร์ตลงทุน เน้นคัดรายตัว มอง “กองทุนธรรมาภิบาลไทย” เทรนด์ใหม่การลงทุน ลดปัญหาการทุจริต

นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุน ประจำประเทศไทย บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงการลงทุนที่ต้องจับตาในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 คือ มูลค่าสินทรัพย์หลายประเภท มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ เช่น หุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศมีผลตอบแทนเฉลี่ย 8-10% ต่อปี

ผลตอบแทนในระดับดังกล่าว ถือว่าสูงมาก ในระยะถัดไปนักลงทุนจึงต้องระมัดระวังการลงทุนให้มากขึ้น จึงแนะนำให้เน้นการลงทุนคัดเลือกสินทรัพย์ลงทุนรายตัว เช่นการคัดเลือกหุ้นรายตัว และจัดพอร์ตลงทุนกระจายสินทรัพย์ลงทุนมากขึ้น เพื่อยังสามารถรักษาการลงทุนได้อย่างปลอดภัย

“ผลตอบแทนทั้งหุ้นไทยและต่างประเทศตอนนี้เติบโตมาค่อนข้างมากแล้วหลังจาก 2 ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งสหรัฐเมื่อ 10 ปีที่แล้วและยุโรปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงขาขึ้นแรกๆ ที่จะลงทุนอะไรก็ได้ และหากมองผลตอบแทนย้อนหลัง ก็อย่าไปคาดหวังในระดับเดียวกับผลตอบแทนในอดีต เพราะอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปในทุกกรณี”

อย่างไรก็ดีทิศทางการลงทุนผ่านกองทุนรวมในช่วงหลังจากนี้ นายกิตติคุณ มองว่า รูปแบบการลงทุนผ่าน “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย" จะสร้างมิติใหม่ให้กับนักลงทุนและน่าจะได้รับความนิยม เนื่องจากกองทุนดังกล่าว เน้นการลงทุนในบริษัทที่ตระหนักและปฏิบัติตามแนวทาง ESGC คือคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environment) ความรับผิดชอบต่อสังคมรวมถึงพนักงาน (Social) กับธรรมาภิบาล (Governance) และต่อต้านคอร์รัปชัน (Anti-Corruption)

โดยสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังจากการลงทุนดังกล่าว คือ ในแง่ของความเสี่ยงที่ไม่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนน่าจะไม่กระทบหรือลดน้อยลง อาทิ ไม่น่าจะมีความเสี่ยงการโกง หรือการรับสินบนของผู้บริหารเกิดขึ้น ทำให้ความเสี่ยงของกองทุนนี้น้อยลง ผู้ลงทุนสบายใจได้มากขึ้น และกองทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ

อนึ่ง ล่าสุดทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ร่วมกับ 12 บลจ. เตรียมเปิดตัว Thai CG Funds Kick Off Conference “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย สร้างสรรค์สังคมไทย ใส่ใจผู้ลงทุน” ในวันพุธที่ 2 ส.ค.นี้

นอกจากนี้ กองทุนอสังหาฯ และกองรีท อยากให้ระมัดระวังการลงทุนเช่นกัน เนื่องจากหลายๆ สินทรัพย์อสังหาฯ ทั้งไทยและต่างประเทศ เติบโตมาในระยะยาวแล้ว หากลงทุนในช่วงจังหวะนี้อาจไม่ถึงกับดีมากเท่าไหร่ แต่เมื่อดูผลตอบแทนตอนนี้ก็ยังถือว่าดี แต่การลงทุนระยะถัดไปก็ต้องระมัดระวัง

ขณะที่เทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นระยะถัดไป มีผลทำให้ผลตอบแทนตราสารหนี้มีปัญหา อย่างตราสารหนี้ในไทยมีปัญหามาก แต่ยังมองว่า การลงทุนผ่านกองทุนตราสารหนี้ ยังตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการความผันผวนต่ำ ความเสี่ยงไม่สูง หวังผลตอบแทนก็ไม่สูงมาก

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย มองว่า อุตสาหกรรมควรไปให้ ESGC ไม่ใช่หยุดแค่ตัว G หรือ GC ขณะที่ตัวE และ S ก็สำคัญมาก แม้วันนี้จะมีเพียง 51 รายชื่อในลิสของตลาดหลักทรัพย์ แต่เชื่อว่าในอนาคตจะเพิ่มอีกมาก เพราะเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกเรียกร้องกันมากขึ้นคาดว่ากองทุนจะมีระดับพันล้านบาท