'ธนารักษ์' แจ้งเอาผิดบุกรุกที่ราชพัสดุริมคลอง!!

'ธนารักษ์' แจ้งเอาผิดบุกรุกที่ราชพัสดุริมคลอง!!

"กรมธนารักษ์" แจ้งความเอาผิดบุกรุกที่ราชพัสดุ ริมคลองลาดพร้าว -คลองบางซื่อเพิ่มอีก 7 ราย หลังไม่ให้ความร่วมมือจัดระเบียบริมคลอง

ที่สน.บางเขน ผู้แทนกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกครอบครองที่ราชพัสดุบริเวณริมคลองลาดพร้าว และคลองบางซื่อ เพิ่มเติมในชุดที่ 2 อีกจำนวน 7 ราย ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการบุกรุก ลำน้ำสาธารณะตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ในฐานะรองประธานกองอำนวยการร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวและริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (กอร.ชค.) มาติดตามความคืบหน้าของคดี

พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยว่า การเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกครอบครองที่ราชพัสดุบริเวณริมคลองลาดพร้าว และคลองบางซื่อ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำคลองลาดพร้าวมาแล้ว 9 ราย สำหรับผู้ถูกกล่าวหารายใหม่ทั้ง 7 ราย อยู่ในเขตพื้นที่ สน.สายไหม 1 ราย สน.ดอนเมือง 1 ราย สน.ทุ่งสองห้อง 1 ราย สน.บางเขน 2 ราย สน.พหลโยธิน 1 ราย และ สน.วังทองหลาง 1 ราย โดยทางพนักงานสอบสวนจะรับเรื่องไปดำเนินการตามประมวลกฎหมาย

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า การจัดระเบียบริมคลองลาดพร้าว เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อพัฒนาพื้นที่ริมคลอง และก่อสร้างเขื่อนเพื่อช่วยระบบป้องกันปัญหาน้ำท่วม ที่ผ่านมาผู้อาศัยริมคลองลาดพร้าวที่มีมากเกือบ 7,000 ครัวเรือน ได้ให้ความร่วมมือและยอมย้ายออกไป ซึ่งทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ได้จัดสร้างบ้านมั่นคงเพื่อรองรับและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกราย ยกเว้นบางชุมชนพื้นที่ไม่พอต้องซื้อที่ดินใหม่ให้สร้างบ้าน แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีบุคคลบางรายเป็นนายทุนที่สูญเสียผลประโยชน์ไม่ยอมรื้อย้ายออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามขอความร่วมมือเพื่อเอื้อเฟื้อแก่คนในชุมชนเองได้มีที่อยู่อย่างพอเพียง ทั้งเจรจาและติดประกาศแจ้งเตือนแล้ว ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย จากนี้จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน เตรียมออกหมายเรียกผู้บุกรุกครอบครองที่ราชพัสดุบริเวณริมคลองลาดพร้าว และคลองบางซื่อ ทั้ง 7 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา หากยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก 2 ครั้ง ก็จะขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลชุมชนริมคลองลาดพร้าว ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) ร่วมกับหน่วยงานภาคี ปรากฎว่ามีชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 50 ชุมชน รวม 6,868 ครัวเรือน โดยมีชุมชนที่ต้องโยกย้ายออกจากพื้นที่และไปซื้อที่ดินแห่งใหม่ 9 ชุมชน 1,002 ครัวเรือน และมีชุมชนที่สามารถอยู่ในที่ดินเดิม แต่ต้องเว้นและกันออกจากแนวเขตการก่อสร้างเขื่อน จำนวน 41 ชุมชน รวม 5,866 ครัวเรือน จากการดำเนินงานที่ผ่านมา หน่วยงานที่รับผิดชอบ อาทิ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมสหกรณ์ และหน่วยงานความมั่นคง (ทหาร ตำรวจ) ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น มีความสะอาดถูกสุขลักษณะ เป็นระเบียบเรียบร้อย การเดินทางสะดวก ปลอดภัย เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายนพดล ธรรมโม นิติกรชำนาญการ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กล่าวว่า แต่เดิมมีการแจ้งความร้องทุกข์ 9 รายไว้แล้วเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นมีการลงตรวจสอบพื้นที่อย่างต่อเนื่องร่วมกับกอรมน. ก็ยังพบว่ามีการรุกล้ำลำคลองยังไม่มีการปฎิบัติตามข้อตกลงที่เจ้าหน้าที่เคยมาประชาสัมพันธ์ไว้ ด้วยเหตุความจำเป็นจริงๆ ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใดและเมื่อพิจารณาอุปสรรคเกี่ยวกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมอีก 7 ราย ตามแนวทางกฎหมายกับผู้ที่ยังคงละเมิดรุกลำคลองอยู่

ด้านนายอำนวย ลังประเสิรฐ อายุ 60 ปี ชาวบ้านชุมชนหลังสมาคมไทยญี่ปุ่น กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้กำลังใจคนในชุมที่ถูกออกหมายเรียกซึ่งตนเองอาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่รุ่นทวด ขณะนั้นมีบ้านเพียง 20-30 หลังคาเรือน แต่ขณะนี้มีเพิ่มขึ้นกว่า 80 ครัวเรือนไม่ทราบมาจากไหน และ ยืนยันว่า บ้านของตนเองไม่ได้กีดขวางทางน้ำ และไม่อยากเป็นหนี้จากที่อยู่ใหม่ที่รัฐจัดไว้ให้