"ครม." อนุมัติแผนแม่บท แก้ปัญหา "ภูทับเบิก" ปี 60-65 เพื่อบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติแผนแม่บทการแก้ปัญหาภูทับเบิก ประจำปี 2560 -2565 ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอมา เนื่องจากพื้นที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ. เพชรบูรณ์ มีพื้นที่ 13,447 ไร่ ได้รับการจัดตั้งเป็นนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา ตามมติครม.วันที่ 18 ม.ค. 2509 ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวยังใช้ประโยชน์ โดยราษฎรใช้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยและทำกิน อย่างไรก็ตาม ได้เกิดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในบริเวณภูทับเบิก โดยได้มีการก่อสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างในลักษณะของรีสอร์ท ร้านอาหาร และร้านค้าเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ผลกระทบต่อสภาพภูมิทัศน์ และเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ผิดวัตถุประสงค์
พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า แผนงานที่ได้อนุมัติไว้นี้มี 6 ด้าน 1. แผนการบริหารและการจัดการพื้นที่ภูทับเบิก เช่น การจัดทำผังการพัฒนาพื้นที่ จัดให้มีคณะกรรมการคัดกรองราษฎรที่มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ 2.แผนการบริหารจัดการพื้นที่ผ่อนปรน รวมไปถึงการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบการที่ทำผิด ปรับปรุงโครงสร้างอาคารที่ไม่มั่นคง ไม่แข็งแรง การพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับมอบจากการบังคับคดีและพื้นที่ส่วนกลาง จัดให้มีมาตรการควบคุมเป็นมาตรฐานการดำเนินกิจการทางที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายสินค้า ที่ผู้ประกอบการที่เป็นราษฎรชาวเขาตั้งอยู่เดิม 3.แผนการจัดการพื้นที่อยู่อาศัย รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและจัดระบบสาธารณูปโภค และ สาธารณูปการให้เพียงพอต่อความต้องการของชุมชน และรองรับการขยายตัวในอนาคต 4.แผนการจัดการพื้นที่ทำกิน เช่น กำหนดขอบเขตทำกินให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ และจัดให้มีมาตรการควบคุมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องที่อย่างเหมาะสม 5.แผนการจัดการพื้นที่ป่าไม้ รวมถึงการป้องกันและปราบปราม รักษาพื้นที่ที่มีสภาพป่า กำหนดขอบเขตพื้นที่ป่าไม้ ให้ชัดเจน มีการป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ป่าไม้โดยใช้มาตรการทางกฎหมายและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชน ในช่วงที่จะสามารถเข้าไปใช้ในพื้นที่ดังกล่าวได้ และ 6. แผนการจัดการพื้นที่ส่วนกลาง เช่น แผนการจัดการวางผังการใช้ประโยชน์พื้นที่ ส่วนกลางเพื่อประโยชน์ต่อชุมชน โดยรวมและมีการส่งเสริมอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น