ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ประชุมด่วนเตรียมพร้อมรับมือพายุ “เซินกา” ขณะที่เขื่อนลำปาวปริมาณน้ำเพิ่มสูง เตรียมระบายสู่ลำปาว เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำรอบใหม่
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 60 จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องหลายวัน ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีหลายพื้นที่ปริมาณน้ำจากลำห้วยเอ่อเข้าท่วมไร่นาของเกษตรกรเป็นบริเวณกว้าง ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือ ตลอดจนวางแผนการเตรียมพร้อมรับพายุเซินกา หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังเพราะประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวระหว่างวันที่ 24 – 28 ก.ค. 60
นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายธนูสินธุ์ ไชยสิริ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ และนายวิชาญ แท่นหิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัย จ.กาฬสินธุ์ ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว ประสานนายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ท้ายเขื่อนลำปาว อ.เมือง อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย อ.ยางตลาด และอ.ร่องคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ และพื้นที่ อ.นาคู อ.เขาวง ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกับเทือกเขาภูพาน โดยพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ และชี้แจงแนวทางการะบายน้ำของเขื่อนลำปาว เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับปริมาณน้ำ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเซินกา ระหว่างวันที่ 24-28 กรกฏคมนี้ โดยมีนายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ นายอนันตศักดิ์ แย้มชื่น ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาฬสินธุ์รายงานสถานการณ์
นายสุวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกฝ่ายในการชี้แจงสาเหตุถึงความจำเป็นที่เขื่อนลำปาวระบายน้ำ รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังสถานการณ์จากทุกฝ่าย เพื่อรับมือพายุต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะพายุโซนร้อนเซินกา ที่ จ.กาฬสินธุ์ อาจจะได้รับผลกระทบในช่วงสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุตาลัสรวม 6 อำเภอ จาก 18 อำเภอ ของ จ.กาฬสินธุ์ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 13 ตำบล 72 หมู่บ้าน 1,952 ครัวเรือน พื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมและคาดว่าจะได้รับความเสียหายรวม 10,036 ไร่ พืชสวน 28 ไร่ ถนน 10 สายและพื้นที่การเกษตรอื่นๆอีก 102 ไร่ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือแล้ว
ด้านนายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีประมาณน้ำอยู่ที่ 1,097 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 55 ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบและประเมินสถานการณ์พบว่าในช่วงนี้เหมาะสำหรับการระบายน้ำมากสุด ดังนั้นขณะนี้เขื่อนลำปาวจึงได้ระบายน้ำลงสู่ลำน้ำปาวเฉลี่ย 74 ลบ.ม.ต่อวินาที จากที่ตั้งเป้าไว้ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยลำน้ำปาวสามารกักเก็บน้ำได้ 200 ล.บม.ต่อวินาที ซึ่งยังไม่มีผลกระทบกับพื้นที่ และประชาชนอย่างได้ตื่นตระหนก ส่วนสาเหตุที่ต้องระบายในช่วงนี้เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกเริ่มลดลงและลำน้ำสาขาต่างๆก็อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม จึงต้องอาศัยจังหวะในช่วงนี้บาย เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำจากฝนที่ตกลงมา เนื่องจากอาจจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเซินกา จากสถิติและการคาดการณ์ในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายนคาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวอีก 1,200 ล้านลบ.ม. สำหรับปี 2560 นี้ เขื่อนลำปาวตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ซึ่งสิ้นสุดฤดูฝนจะกักเก็บน้ำไว้อย่างน้อย 1,500 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 75 เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และเพียงต่อการเกษตรทั้งฤดูกาลอย่างแน่นอน