น้ำป่าไหลหลากพัดคอสะพาน อ.แม่จริมขาด 2 แห่ง

นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในเขตพื้นที่อำเภอเชียงกลาง ปัว ท่าวังผา บ่อเกลือ สันติสุข และแม่จริม เกิดดินสไลด์ทับเส้นทางคอสะพานขาด พื้นที่และทรัพย์สินทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่านได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ตาลัส” (Talas) 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คอสะพานบ้านน้ำตวง-กิ่วน้ำ-บ้านสว่างฯ อ.แม่จริม จ.น่าน ขาด 2 แห่ง รถยนต์ไม่สามารถใช้สัญจรได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนใช้แผ่นเหล็กแนวกันภัยมาปูให้รถจักรยานยนต์และชาวบ้านใช้สัญจรได้ ชาวบ้านได้รับความเดือดนร้อน 329 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 2,000 คน 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย.ตชด.324 ข้าราชครู เจ้าหน้าที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ระบบน้ำประปาทั้ง 2 ระบบ ที่ใช้อุปโภคบริโภคและพื้นที่การเกษตร ถูกน้ำพัดท่อส่งน้ำขาดเสียหาย ชาวบ้านเดือนร้อนไม่มีน้ำใช้ในครัวเรือน ต้องพากันไปหาน้ำฝนที่ไหลจากเขาอาบตามข้างทาง ขณะเดียวกัน ฝนยังไม่หยุดตกทำให้กิ่งไม้หักพาดสายไฟดับ ทำให้สัญญาณโทรศัพท์ล่ม ไม่สามารถติดต่อกันได้ จึงสั่งการให้นายณรงค์ อินโส หน.ปภ.น่าน ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น

 ทางด้านนายณรงค์ สั่งการให้นายทอมสันต์ ชัยศรี นายช่างเครื่องกลชำนาญงาน ฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายใสสว่าง คนสูง ปลัดอาวุโส อ.แม่จริม นายธนภร เพ็ชรคล้าย เจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นายเทียบ แก้วใส นายก อบต.น้ำพาง นายนพ นันทสิทธิ์ นายกอบต.หนองแดง อ.แม่จริม ลงพื้นที่ บ้านน้ำตวง หมู่ 9 ต.น้ำพาง เพื่อสำรวจความสียหายและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น

จุดแรกที่ถนนชนบท บ้านน้ำปูน หมู่ 1 ต.น้ำพาง อ.แม่จริม สะพานน้ำฟ้า ห่างจากตัว อ.เภอแม่จริม 47 ก.ม. ถูกระแสน้ำพัดคอสะพานขาดตั้งแต่ คืนวันที่ 17 ก.ค.ทางแขวงการทางน่านที่ 1 ได้เอาสะพานแบริ่ง ไปวางเพื่อให้ใช้ชาวบ้านสัญจร ในเบื้องต้นจุดที่ 1 แต่จุดที่ 2 ที่บ้านน้ำตวง หมู่ 9 ต.น้ำพาง ยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้

 นายเทียบ แก้วใส นายก อบต.น้ำพาง กล่าวว่า ตำบลน้ำพาง ได้รับผลกระทบเกิดปัญหาจากพายุตาลัส เมื่อคืนวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านตำบลน้ำพาง ต.หนองแดง ได้รับความเดือดร้อนกระแสน้ำพัดคอทั้ง 2 ข้าง สะพานขาด 2 จุด จุดที่ 1 สะพานน้ำฟ้า บ้านน้ำปูน แห่งนี้ขาด และจุดที่ 2 สะพานบ้านน้ำตวง หมู่ 9 ต.นำพาง และ ต.หนองแดง ขาด ทำให้ชาวบ้านที่ต้องใช้เส้นทางนี้ได้รับความเดือดร้อน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านน้ำตวง หมู่ 9 ต.น้ำพาง ต.หนองแดง 2 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านกิ่วน้ำ หมู่ 9 บ้านสว่าง หมู่ 10 ได้รับผลกระทบไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ ไฟฟ้าดับ สัญญาณโทรศัพท์ล่ม ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ เป็นเวลา 2-3 วัน ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านที่ติดอยู่ขาดอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านกว่า 2,000 คนได้รับความเดือดร้อน

ขณะเดียวกัน ทาง อบต.น้ำพาง ร่วมกับ อบต.หนองแดง อำเภอแม่จริม ร่วมแขวงการทางน่าน 1 ทำสะพานแบริ่ง ในจุดที่ 1 แต่จุดที่ 2 สะพานบ้านน้ำตวง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ อบต.น้ำพาง และ อบต.หนองแดง ขาดรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านได้ใช้แผ่นเหล็กแนวกันภัยมาปูให้รถจักรยายนต์และเดินข้ามได้ ให้กับชาวบ้าน บ้านกิ่วน้ำ และบ้านสว่าง พอบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นายใสสว่าง คนสูง ปลัดอาวุโส อ.แม่จริม กล่าวว่า หลังจากพายุที่เกิดเมื่อ 17 ก.ค.ที่ผ่าน ทางอำเภอแม่จริมได้ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ภายใต้การนำของ นายดลภาค เนตรใส นายอำเภอแม่จริม ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และอยู่ในระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวทำการซ่อมแซมสะพานทั้ง 2 จุด ให้มั่นคงถาวรต่อไป

 นายทอมสันต์ ชัยศรี นายช่างเครื่องกลชำนาญงาน ฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า นายณรงค์ อินโส หน.ปภ.น่าน ได้มอบหมายให้ตนเดินทางมาสำรวจความเสียหายเพื่อที่จะดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน บ้านกิ่วน้ำ และบ้านสว่าง ที่ติดอยู่ ให้สามารถใช้รถยนต์สัญจรได้ ขณะอยู่ในระหว่างรอการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ

 นายสมชาย แซ่โซ้ง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้ำตวง หมู่ 9 ต.น้ำพาง กล่าวว่า ชาวบ้านน้ำตวงเดือดร้อนในเรื่องของการเดินทางข้ามสะพานบ้านน้ำตวงไปทำไร่ ดูแลพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำหลาก ที่เดือดร้อนมากระบบน้ำประปาของหมู่บ้าน 2 ระบบ ถูกกระแสน้ำพัดท่อส่งน้ำขาด ทำให้ขาดน้ำ ที่ใช้อุปโภคบริโภค ที่เดือดร้อนมากสำหรับใช้ในห้องสุขา การอาบน้ำไม่สามารถอาบน้ำในแม่น้ำว้าเนื่องจากขุ่นแดงมีแต่โคลน ต้องเดินทางไปหาอาบน้ำฝนที่ไหลจากเขาตามข้างทาง และน้ำประปาที่ใช้ในการเกษตร