เจาะชีวิตแสนเศร้าของ “เชสเตอร์” นักร้องนำ Linkin Park

เจาะชีวิตแสนเศร้าของ “เชสเตอร์” นักร้องนำ Linkin Park

ถึงจะประสบความสำเร็จระดับโลก แต่ "เชสเตอร์ เบนนิงตัน" กลับมีชีวิตวัยเด็กที่น่าเศร้า ทั้งติดยา ถูกล่วงละเมิดทางเพศ จนกลายเป็นโรคซึมเศร้าที่เขาต้องต่อสู้กับมันมาตลอดทั้งชีวิต

เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำวง Linkin Park ตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการแขวนคอตัวเองที่บ้านพักในนครลอสแองเจลีส เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนทั่วโลก เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากโรคซึมเศร้าที่เขาเป็นอยู่

            ถึงแม้จะประสบความสำเร็จ และโด่งดังไปโลก แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าชีวิตวัยเด็กของเชสเตอร์น่าสงสารมาก และอาจเป็นผลพวงที่ทำให้เขาเป็นโรคซึมเศร้ามาจนถึงทุกวันนี้  

 

เจาะชีวิตแสนเศร้าของ “เชสเตอร์” นักร้องนำ Linkin Park

เชสเตอร์ เบนนิงตัน เกิดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2519 ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา เขามีชีวิตวัยเด็กที่ลำบาก แถมยังถูกเพื่อนชายที่อายุมากกว่าทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดทางเพศตอนที่มีอายุได้เพียง 7 ขวบเท่านั้น ซึ่งเชสเตอร์เคยพูดถึงเรื่องนี้เอาไว้กับนิตยสาร Metal Hammer ว่ามันทำลายชีวิตของเขา

“มันทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองของผม เหมือนคนส่วนใหญ่น่ะแหละ ผมกลัวเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกมา ผมไม่อยากให้คนคิดว่าผมเป็นเกย์หรือโกหก มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก”

พออายุ 11 ขวบ พ่อกับแม่ของเขาก็หย่ากัน เชสเตอร์ถูกบังคับให้ไปอยู่กับพ่อที่เป็นตำรวจ พออายุ 13 เขาก็เริ่มติดยา

“ผมจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเวลาเมายา ผู้รู้สึกเหมือนว่าจะควบคุมสิ่งรอบตัวได้มากขึ้นตอนที่มีอาการหลอนจากยาหรือกำลังเมาเหล้าอยู่”

เชสเตอร์เสพทั้งฝิ่น กัญชา โคเคน แอมเฟตามีน แล้วก็ดื่มเหล้าหนักจนเขายังประหลาดใจที่ตัวเองรอดมาได้ น้ำหนักของเชสเตอร์ลดเหลือแค่ 50 กิโลกรัม จนแม่ของเขาบอกว่าดูเหมือนคนที่เพิ่งออกมาจากค่ายกักกันนาซี

เหตุการณ์ที่มีแก๊งบุกเข้าไปที่บ้านของเพื่อนตอนที่เขากำลังเมายา แล้วเอาปืนจี้เพื่อนของเขาทำให้เชสเตอร์ตัดสินใจเลิกยาในปี 2535 หลังจากนั้น เขาได้ย้ายมาอยู่ที่แอลเอแล้วก็ไปออดิชั่นเข้าวงดนตรีซึ่งกลายมาเป็น Linkin park ในปี 2542 แล้วโด่งดังไปทั่วโลกในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก ๆ ที่ Linkin Park ประสบความสำเร็จ เชสเตอร์ก็ได้หวนกลับไปเสพยาอีกครั้งก่อนจะพยายามเลิกจนได้ในช่วงปลายยุค 2000 โดยเชสเตอร์เคยพูดถึงเรื่องนี้กับนิตยสาร Spin เอาไว้ว่า “มันไม่เท่เลยที่ติดเหล้า มันไม่เท่เลยที่ไปกินเหล้าแล้วกลายเป็นไอ้งี่เง่า”

เชสเตอร์พยายามเลิกยาเสพติด และต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามาตลอดชีวิต และได้นำเอาประสบการณ์เหล่านี้ถ่ายทอดออกมาในบทเพลงของเขา

เจาะชีวิตแสนเศร้าของ “เชสเตอร์” นักร้องนำ Linkin Park

อย่างไรก็ตาม เชสเตอร์เป็นเพื่อนสนิทกับ คริส คอร์แนล นักร้องนำวง Soundgarden และ Audioslave ที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเชสเตอร์มองคริสเป็นไอดอล ทั้งคู่เคยออกทัวร์ด้วยกัน แล้วเชสเตอร์ก็เป็นคนร้องเพลง Hallelujah ในงานศพของคริส แถมยังตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันเกิดของคริสพอดี เลยทำให้คนสันนิษฐานกันว่าเชสเตอร์อาจเสียใจกับการจากไปของเพื่อนคนนี้มากจนทำให้อาการซึมเศร้าของเขาแย่ลงจนตัดสินใจปลิดชีพตัวเองในท้ายที่สุด

เจาะชีวิตแสนเศร้าของ “เชสเตอร์” นักร้องนำ Linkin Park

เจาะชีวิตแสนเศร้าของ “เชสเตอร์” นักร้องนำ Linkin Park

เจาะชีวิตแสนเศร้าของ “เชสเตอร์” นักร้องนำ Linkin Park

ไม่ว่าสาเหตุของมันจะคืออะไร แต่ที่แน่ ๆ “เชสเตอร์ เบนนิงตัน” คือตำนานบทหนึ่งของวงการเพลง และการจากไปของเขาคือความเศร้าของคนนับล้านทั่วโลก

ขอให้วิญญาณของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องนำวง Linkin Park ไปสู่สุคติ พวกเราเสียใจกับการจากไปของคุณ