“แจ้” ผู้ต้องหาคดีหั่นศพ พบทนายความเป็นครั้งแรก หลังถูกคุมขังตามคำสั่งศาลในเรือนจำขอนแก่นเป็นผลัดที่ 5 ทนายเผยพบข้อมูลใหม่ ไม่เคยปรากฏในข่าวมาก่อน (มีคลิป)
วันนี้ (18 ก.ค.60) ที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่นนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ สัตยบัณฑิต บิดาของนางสาวอภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลอบฝัง ซ่อนเร้น หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร และข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณี ร่วมกันฆาตรกรรมนางสาววริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม ก่อนจะนำร่างไปฝังอำพรางในป่าไผ่ บ้านโนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2560 ก่อนที่จะถูกติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา และตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ได้ควบคุมตัวมาขออำนาจศาลจังหวัดขอนแก่นฝากขังเป็นผลัดที่ 5 โดยในวันนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางสาวแจ้กับทนายความได้พบหน้ากัน เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี
นายบุญยงค์ แก้วฝายนอก ทนายความ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากครอบครัวของนางสาวแจ้ ให้ทำหน้าที่เป็นทนายความในการต่อสู้คดี โดยวันนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้านางสาวแจ้ในฐานะลูกความ ได้เข้าสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากนางสาวแจ้ เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกความประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้ได้ทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีความที่ระเอียดพอสมควร ซึ่งการพูดคุยกับลูกความในวันนี้ยังได้ทราบข้อเท็จจริงที่เป็นข้อมูลใหม่ และไม่เคยปรากฏในข่าวมาก่อน
“ ข้อมูลต่างๆ ที่เคยปรากฏต่อสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ไปก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะชี้ไปในทำนองที่ว่านางสาวแจ้ มีส่วนร่วมในคดีความทุกขั้นตอน แต่พอได้พูดคุยกับนางสาวแจ้อย่างละเอียดแล้ว พบว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนทราบก่อนหน้านี้ ที่จริงแล้วแจ้ไม่มีเหตุผลที่จะไปทำร้ายผู้ตาย แม้ว่าแจ้จะสนิทกับเปรี้ยวเพราะเคยทำงานด้วยกันก็ตาม โดยหลังจากนี้ในฐานะทนายก็จะนำข้อมูลที่ได้ไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเพื่อเตรียมต่อสู้คดีในชั้นศาล เบื้องต้นมี 2 – 3 ประเด็นที่จะต้องนำขึ้นพิสูจน์ต่อชั้นศาล เช่น การพิสูจน์ว่าแจ้ไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำร้ายร่างกายให้ผู้ตายเสียชีวิตและไม่ได้มีส่วนร่วมในการตบตีผู้ตายจนเป็นเป็นเหตุให้เสียชีวิต เพราะขณะเกิดเหตุ แจ้นั่งอยู่ในรถด้วยก็จริง แต่แจ้นั่งอยู่ที่บนท้ายของรถที่ใช้ก่อเหตุ ไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตาย มีเพียง ผู้ต้องหา 2 คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าเท่านั้นที่เป็นคนลงมือ” ทนาย กล่าว
ขณะที่นายสมศักดิ์ สัตยบัณฑิต บิดาของนางสาวแจ้ กล่าวว่า ที่ผ่านตนพยายามที่จะช่วยเหลือลูกสาวมาโดยตลอด ไม่ได้หลบหน้าหรือปิดตัวเงียบ โดยได้ประสานกับตำรวจ สภ.เขาสวนกวางมาโดยตลอด เพียงแค่ไม่อยากแสดงตัวเท่านั้น การช่วยเหลือลูกสาวในครั้งนี้ก็หวังว่าจะผ่อนหนักเป็นเบา เพราะจากที่ได้พูดคุยกันกับลูกสาว ก็ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตายจนเสียชีวิต ไม่ได้ร่วมวางแผนใดๆ เพียงแต่ไปกับผู้ต้องหาที่เหลือเพราะเป็นเพื่อนกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันเท่านั้น ตนไม่ได้เจาะจงว่าลูกสาวเป็นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มั่นใจว่าลูกสาวไม่ได้มีเหตุโกรธเคืองพอที่จะไปฆ่าผู้ตายได้ นับตั้งแต่ที่ลูกสาวถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำขอนแก่น ตนก็มาเยี่ยมและมั่นให้กำลังใจลูกสาวให้เข้มแข็ง ส่วนในเรื่องของคดีขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ และกระบวนการยุติธรรม ตนในฐานะพ่อก็ขอเพียงว่าให้หนักกลายเป็นเบาเท่านั้น