'นายกฯ' ตรวจความคืบหน้าจัดสร้างพระเมรุมาศ

'นายกฯ' ตรวจความคืบหน้าจัดสร้างพระเมรุมาศ

"นายกรัฐมนตรี" ลงพื้นที่ตรวจการจัดสร้างพระเมรุมาศ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ชี้งานคืบหน้ามากกว่า 60% พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานการกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างพระเมรุมาศและบูรณปฎิสังขร ราชรถ และพระยานมาศ ติดตามความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวง พร้อมชมความคืบหน้างานประติมากรรม จิตรกรรมประดับพระเมรุมาศ รวมถึงการก่อสร้างพระที่นั่งทรงธรรม ทิม ศาลลูกขุน ทับเกษตร ซึ่งขณะนี้งานก่อสร้างพระเมรุมาศ มีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 60 และในภาพรวมถืองานก่อสร้างต่างๆ ดำเนินการรวดเร็วกว่ากรอบดำเนินการที่กำหนดไว้ ทำให้ช่างจะมีเวลาเก็บรายละเอียดของงานมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและเห็นความคืบหน้า ทำให้รู้สึกภูมิใจในความเป็นไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนต้องช่วยกันรักษา ทำให้รู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทยในแผ่นดินที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์คอยปกป้อง ดูแลและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน นอกจากนี้ขอขอบคุณจิตอาสาทั้งภาครัฐและเอกชนที่บูรณาการการทำงานได้เป็นอย่างดี ทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่น

"ผมไม่กังวล เพราะทุกอย่างจะเสร็จตามเวลา โดยงานพระราชพิธีมีกำหนดการในเดือนตุลาคมนี้ และทุกอย่างจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจะเป็นการตรวจสอบและเก็บรายละเอียดปราณีตศิศิลป์ ผมติดตามงานทุกวันและเห็นความก้าวหน้า ขอให้ทุกคนภูมิใจที่ทำงานเพื่อในหลวงรัชกาลที่9 อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงเรื่องการประชาสัมพันธ์และการบรรยายระหว่างที่มี จัดงานพระราชพิธีถวายพระราชทานเพลิงพระศพที่อาจจะให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน และเรื่องกรอบระยะเวลาการจัดงาน จึงต้องจัดทำเอกสารข้อมูลผู้บรรยายด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า งานพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพถือเป็นงานสำคัญที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติติดตามและอยากเข้าร่วม เพราะพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชไม่ได้สำคัญเฉพาะกับคนไทยแต่เป็นบุคคลสำคัญของโลก จากพระราชกรณียกิจและพระราชดำริที่เป็นประโยชน์ ซึ่งไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปมากกว่าสิ่งท่าพระองค์ทรงทำไว้ให้คนไทย แสดงให้เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญกับประเทศไทย โดยที่ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่มีมายาวนานเพื่อไปสู่สิ่งใหม่ ที่สำคัญคนไทยต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อให้รู้จักคุณค่าของความเป็นไทย หากคนไทยไม่รักชาติก็ถือว่าไม่ใช่คนไทย

ทั้งนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องสภาพอากาศและเหตุไฟฟ้าที่อาจจะเกิดขัดข้องขึ้นได้ จึงอยากให้เตรียมแผนเผชิญเหตุไว้รองรับ แต่ด้วยพระบารมีของรัชกาลที่9 หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

สำหรับบรรยากาศก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึง ได้มีฝนตกอย่างหนัก ก่อนจะหยุดตกในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมลงสีงานประฏิมากรรมประกอบพระเมรุมาศด้วย