คาดกำไรหุ้น 'พลังงาน' ร่วง

คาดกำไรหุ้น 'พลังงาน' ร่วง

โบรกคาด "กำไร" หุ้นพลังงานร่วง พร้อมหั่นเป้าปีนี้ลง

กลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่ถูกนักวิเคราะห์จับตามากสุดในตอนนี้ เนื่องจากคาดว่าจะมีการรายงานกำไรไตรมาส2ที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งเริ่มมีนักวิเคราะห์ได้หั่นประมาณการกำไรลงแล้ว ขณะเดียวกันมีแรงเทขายดักหน้าก่อนแจ้งงบฯออกมาบ้างแล้ว

บล.บัวหลวง ระบุว่ากลุ่มพลังงาน แม้ตลาดมีมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ แต่มองว่าผลกระทบต่อประมาณการกำไรโดยรวมของกลุ่มจะอยู่เพียง 2% ในปี2560เท่านั้น แต่จะกระทบต่อประมาณการในปี2561

สำหรับไตรมาส 2ปีนี้ มองว่ากำไรรวมของกลุ่ม (PTT, PTTEP, TOP, IRPC, BANPU, SPRC, และ BCP) จะลดลง 52%จากไตรมาส1ปี2560และ 21%จากงวดเดียวกันปีก่อน นำโดยกลุ่มโรงกลั่นเพราะมี stock loss ในขณะที่เรามองว่าผลกระทบต่อหุ้น upstream อย่าง PTT และ PTTEP จะน้อยกว่า

บล.ทิสโก้ ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการของปี2561ลง สำหรับ PTTEPและหุ้นPTT แต่ผลประกอบการปีนี้หนุนโดยต้นทุนการผลิตที่ลดลง ทั้งนี้ Deutsche Bank ปรับราคาน้ำมันลง โดยคาดราคาน้ำมันลดลงเป็น 54/54/56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิม 56/63/65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยปรับประมาณการธุรกิจต้นน้ำลงตามแนวโน้มของราคาน้ำมันที่มีอัพไซด์จำกัดในช่วงครึ่งหลังปีนี้และปีหน้า แต่ยังคงชอบกลุ่มพลังงาน, และด้วย PTT ยังมีปัจจัยบวกจากการขยายผลประกอบการจากธุรกิจก๊าซ และมองว่า PTTEP ขาดความน่าสนใจ เนื่องจากการประมูลโครงการที่ล่าช้าเป็นปี2561

ขณะที่ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการของ PTTEP และ PTT สำหรับ ปี2561ลง7-9% ตามลำดับเพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาน้ำมันที่ลดลง แม้ว่าจะปรับประมาณการ ปี 2560ขึ้น 14-8% สำหรับ PTTEP และ PTT เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงเป็นปัจจัยบวกต่อทั้ง 2 บริษัท

ฝ่ายวิจัยมองว่า PTT จะได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจปลายน้ำ ทำให้ผลประกอบการออกมาคงที่แม้ว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะลดลง แต่ผลประกอบการของ PTT จะเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต แม้ว่าการจดทะเบียนบริษัทลูกจะล่าช้าออกไปยังปี 2562 โดยเชื่อว่า การขายบริษัทลูกออกมาจะทำให้อัพไซด์ของ PTT เพิ่มขึ้น 20 บาทต่อหุ้น หรือ 5% หากจดทะเบียนที่ 7.8 เท่าตามกลุ่ม

 แม้ว่า PTTEP จะซื้อขายในราคาที่ต่ำ แต่ยังไม่เห็นปัจจัยกระทบของ PTTEP ในระยะสั้น และการประมูลสัมปทานที่เลื่อนเป็นไตรมาส3ปีนี้จะทำให้การประกาศผลเลื่อนออกไปเป็น ไตรมาส1/2561 เป็นอย่างเร็ว ซึ่งเชื่อว่า PTTEP มีความได้เปรียบในการเข้าประมูล และคิดเป็นกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 20% ในปี2566 แต่คาดว่าส่วนแบ่งรายได้ของภาครัฐจะเพิ่มขึ้นกดดันอัพไซด์ของหุ้น และมูลค่าที่เหมาะสมของเรา 85 บาท ได้รวมผลของการต่อสัมปทานแหล่งผลิตบงกชแล้วการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม

 อย่างไรก็ตามปรับประมาณการPTTEP ลงเป็นเพื่อสะท้อนแนวโน้มของราคาน้ำมันที่ลดลง แต่ปรับประมาณการของ PTT เพิ่มขึ้นจาก 400 บาท เป็น 420 ล้านบาท จากธุรกิจโรงกลั่น และปิโตรเคมีที่ดีขึ้น ทั้ง PTT และ PTTEP ซื้อขายในราคาที่ต่ำ และราคาเทียบมูลค่าหุ้น0.8 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และในการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม โดยมีความเสี่ยงสำคัญคือ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง และสัญญาสัมปทานที่ดีกว่าคาด