“เขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม" ทุบหม้อข้าว 10 ล้านแลกพันล้าน
อดีตผู้รับเหมาดาวรุ่งตัดใจขายธุรกิจ รุกสู่ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนที่ดินทำเลทอง “เขาใหญ่พาโนราม่า” ฟาร์มเห็ดครบวงจร พอร์ตเริ่มต้นสิบล้านจึงก้าวสู่ 50 ล้านภายใน 2 ปี รุกตลาดเห็ดอาเซียน ก่อนปูพรมตลาดโลก
จากผู้รับเหมาก่อสร้างที่ไม่เคยทำธุรกิจอื่นมาก่อน เมื่อต้องมาเริ่มต้นทำธุรกิจจึงเป็นสนามเขี้ยวกรำ สำหรับ “ปรเมศวร์ สิทธิวงศ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม เจ้าตัวเล่าย้อนถึงธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เป็นทั้งความฝันและความสุขแห่งนี้
ถนนธุรกิจเริ่มต้นจากความกล้าตัดใจขายทิ้งกิจการรับเหมาก่อสร้างที่กำลังมือขึ้นรับโครงการระดับร้อยล้าน ความคิดตอนนั้นตั้งใจ "ทุบหม้อข้าวตีเมืองจันทร์" ทิ้งธุรกิจเก่าโผสู่ตลาดใหม่ หลังจากไปเรียนการเพาะเห็ดอย่างเข้มข้น 6 เดือน กับ ดร.พิเชษฐ์ โสวิทยกุล ปัจจุบันเป็นคณะบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะเห็ด
กลายเป็นการตั้งใจปั้น “เขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม” รีสอร์ทฟาร์มเห็ดเพื่อสุขภาพครบวงจร จำนวน16 ห้อง คอนเซ็ปต์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ศึกษาโรงเพาะเห็ดและเสิร์ฟอาหารที่ปลูกได้จากเห็ดในรีสอร์ท บนผืนดินมรดกของภรรยา(แอนนา สิทธิวงศ์) เนื้อที่ 90 ไร่ เดิมเป็นสวนมะม่วง ถูกปรับเปลี่ยนที่ดิน 2 ไร่ครึ่ง ติดถนนธนะรัชต์
เขาและภรรยาปัดฝุ่นที่ดินให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงคึกคักตามริมถนนแนวเส้นทางก่อนขึ้นเขาใหญ่
ความคิดแรกคิดแค่เพียงว่า จะทำเกษตรครบวงจร เป็นแหล่งดึงดูดคนมาเที่ยว และ“ขายเห็ดสด”ให้นักท่องเที่ยวซื้อติดมือกลับไป
แต่เมื่อลองแล้วพบว่า คนมาพักไม่กี่คนซื้อเห็ดสดกลับบ้าน ส่งไปขายตลาดไทก็ถูกกดราคา จึงต้องมาคิดใหม่ด้วยการ “แปรรูป”เห็ดสดหลากหลายชนิด อาทิ แหนมเห็ด เห็ดสามรส น้ำเห็ด 7 อย่าง ที่พร้อมขายในรีสอร์ท และส่งขายไปตามจุดท่องเที่ยวรอบเขาใหญ่ ธุรกิจประสบความสำเร็จงดงาม รายได้ปี 2556 จึงเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท
ก่อนจะขยับไปสู่การเพาะราชาแห่งเห็ด อย่าง “เห็ดหลินจือ” เห็ดสายพันธุ์จีนมีอีกชื่อว่า “เห็ดหมื่นปี” สรรพคุณทางยาอายุวัฒนะ สร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะคนป่วยมะเร็ง ที่นำไปทดลองกับคนใกล้ตัว เช่น คนงานในรีสอร์ท และพ่อเพื่อน ซึ่งได้รับการตอบรับดี กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของรีสอร์ทแห่งนี้
“เห็ดหลินจือ” ถือเป็นผลิตภัณฑ์ดาวเด่น เป็นตัวชูโรง ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2 แสนบาท แยกมาบรรจุจำหน่าย กระปุกละ 2,000บาทในรูปสกัดผง และยังมีผลิตภัณฑ์นานาชนิดจากเห็ดหลินจือ อาทิ ชาเห็ดหลินจือ สปอร์เห็ดหลินจือสกัด
สรรพคุณหลินจือ ทำให้เขาคิดไปไกลถึงการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ
ตลาดแรกที่นำเห็ดหลินจือไปรุก เป็นธงชัยแรกที่ ที่ทำการไปรษณีย์แห่งประเทศไทย ที่มีจุดกระจายสินค้าเป็นสาขาไปรณีย์กว่า 1,146 สาขาบวกกับพนักไปรษณีย์กว่า 3 หมื่นคน ที่เข้าถึงบ้านเรือนคนไทยแทบทุกตรอก ซอกหัวหัวถนน จนถึงท้ายซอย ที่สำคัญ ค่าแรกเข้าต่ำเพียง 2 หมื่นบาทต่อปี
“ไปรษณีย์ก่อตั้งมามากกว่า 100 ปี อยู่ในทำเลทองเป็นจุดที่เข้าถึงคนไทยได้ทั่วประเทศ มีสาขากว่าพันแห่งเป็นช่องทางที่ดีส่งต่อสุขภาพ จากคนไปรษณีย์ โดยให้เขาได้ลองก่อน และขยายไปแบบปากต่อปาก”
นั่นจึงทำให้ปี 2557 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เขาใหญ่พาโนราม่า เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้าน รายได้เริ่มมากกว่ารีสอร์ท และการบริหารจัดการก็น้อยกว่า
ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้าน ในปี 2558 หรือโตกว่าเท่าตัว โดยยอดขาย 50% มาจากไปรษณีย์ และที่เหลือเป็นออนไลน์ และหน้าร้านอื่นๆ
เมื่อเข้าสู่ปี 2559 ยอดขายมูลค่า 55 ล้านบาท หรือเติบโต 10%
การเติบโตธุรกิจเขาใหญ่พาโนราม่าฯ ยังมีสตอรี่ใหม่ๆ มาบูทธุรกิจ โดยมีคีย์แมนอย่างธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) ซึ่งมีนโยบายที่จะเข้าไป“ร่วมทุน”กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่เป็นดาวรุ่ง มีโอกาสขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดดไปพร้อมกัน
ภิวัฒน์ ไชยานุกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการและร่วมทุน1 เอสเอ็มอีแบงก์ เล่าถึงการปรับบทบาทของเอสเอ็มอีแบงก์ที่ไม่ใช่เพียงปล่อยสินเชื่อ แต่ยังทำหน้าที่เข้าไปร่วมทุนเป็นพันธมิตรธุรกิจเพื่อเป็นมิตรธุรกิจที่คอยเติมเต็มองค์ความรู้พัฒนาธุรกิจไปพร้อมกันกับผู้ประกอบการที่เป็นดาวเด่นที่มีโอกาสเติบโต ซึ่งในปี 2560 นี้วางแผนไว้ 10 ราย ทำดีลร่วมทุนเสร็จแล้ว 2 ราย
โดยเขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์มถือเป็น“รายแรก”ที่เอสเอ็มอีแบงก์เข้าไปร่วมทุนสัดส่วน 23% มูลค่า 12 ล้านบาท จากมูลค่าธุรกิจ 45.8 ล้านบาท
“เอสเอ็มอีแบงก์ปรับบทบาทจากเดิมให้สินเชื่ออย่างเดียวแล้วรอเก็บค่าดอกเบี้ยส่วนการเติบโตยั่งยืนก็วัดดวงเอา แต่การร่วมทุนทำให้เอสเอ็มอีได้ติดปีกบินได้เร็วขึ้นและเติบโตยั่งยืน “ ผู้ร่วมทุนใหม่เล่า
เมื่อมีผู้ร่วมทุนใหม่ “ปรเมศวร์” จึงมองเห็นโอกาสที่จะย้ายร่างตัวเองไปไกลจากรีเทล ขยับไปสู่การเป็น “เทรดเดอร์” ในธุรกิจเกษตรต้นน้ำ ด้วยการรับผลิตภัณฑ์สปอร์เห็ดหลินจือมาจำหน่าย
เขาบอกว่า การร่วมทุนกับเอสเอ็มอีแบงก์ครั้งนี้ทำให้มีทุนไปลงทุนวิจัยและพัฒนา(R&D) นวัตกรรมจากเห็ดหลินจืออีก 4 รายการทันที ที่เปิดตัวในปีนี้
ประกอบด้วย สปอร์เห็ดหลินจือสกัด แบรนด์ “นครินทร์” 2.ร้านกาแฟ ชื่อ”วาวี ลิงซ์.” (Wawee Lingz) ร่วมทุนกับกาแฟออแกนิกจากวาวี พัฒนาแฟรนไชส์ร้านกาแฟสดที่ผสมเห็ดหลินจือแห่งแรกของโลก วางเป้าหมายขยายแฟรนไชส์ 100 สาขาภายใน 3 ปี 3. น้ำเห็ด 7 อย่าง แบรนด์ “อิมมู (Immu)” น้ำดื่มฟังชันแนล ดริ๊งค์พัฒนาร่วมกันกับบริษัท ซินนามอน บริดจ์ (ไทยแลนด์) ที่เตรียมส่งออกไปยังอังกฤษ และขยายไปในตลาดยุโรป และ 4.กาแฟสำเร็จรูป เห็ดหลินจือแบรนด์ “มัชดี (Mush De)” ซึ่งเป็นการผสมระหว่างกาแฟเดอลอง เฉพาะถิ่นจากจ.พัทลุง
เขาใหญ่พาโนราม่าฟาร์มยังได้ลงนามสัญญานำเห็ดหลินจือสายพันธุ์ไทย(MG2) มานำหน่าย จากแหล่งวัตถุดิบจากโครงการหลวง ที่สวนเกษตรเมืองงาย จ.เชียงใหม่ เจ้าของลิขสิทธิ์ ที่ถูกพัฒนาโดยการสนับสนุนจากกองทุนภูมิไทยพัฒนา
ปี 2560 จึงเป็นปีที่เขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม เติบโตอย่างก้าวกระโดด มียอดขายเพิ่มขึ้นแตะที่ 100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหนึ่ง ซึ่งป็นผลมาจากการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ลุยตลาดอาเซียน ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม อินโดนีเซีย ที่ทั้ง 4 ประเทศ มีพันธมิตรที่เตรียมเจรจานำเข้าสินค้าสินค้าจากเห็ดหลินจือ
“ตอนทำใหม่ๆ ไม่ได้มองขายผลิตภัณฑ์ มองแค่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร แต่ก็ค่อยๆ มีคนมาเที่ยวซื้อของจากหน้าร้าน รายได้ที่รีสอร์ทเริ่มอยู่ตัวแต่มีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่เติบโตมากขึ้น”
ทั้ง 5 ตลาดนำร่องในอาเซียนเป็นการปูพรมการบุกตลาดโลกของ ก่อนจะขยายไปบุกตลาดต่างประเทศ อาทิ ยุโรป รวมไปถึงจีน แหล่งกำเนิด “เห็ดหลินจือ” ที่นำเข้ามาในไทย เพราะเห็ดหลินจือ พันธุ์เอ็นจี 2 เป็นสายพันธุ์ไทยแท้ที่พัฒนาใหม่นี้ เป็นความภูมิใจคนไทยที่ส่งออกย้อนกลับไปตีตลาดจีนได้
เป้าหมายรายได้หากปูพรมส่งออกเห็ดหลินจือครบตามเป้าหมาย ทุกตลาดที่วางกลยุทธ์ไว้ เขาเชื่อว่ายอดขายจะก้าวกระโดดไปแตะที่ยอด 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
นั่นคือการปรับตัวไม่ยึดติดเพียงโมเดลธุรกิจเดิม ยอมเปลี่ยนร่างสร้างธุรกิจไปเรื่อยๆตามโอกาสและสภาพตลาดที่เกิดขึ้น จึงทำให้วันนี้ “ปรเมศวร์” พัฒนาธุรกิจได้สารพัดโมเดล
เขาบอกว่า ที่ทำเช่นนี้ได้ เพราะเข้าใจจุดเด่นของตัวเองที่พร้อมไปรวมกับใครก็ได้ ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ จึงเกิดธุรกิจใหม่ร่วมกันกับเอสเอ็มอีรายอื่น
“เราคิดจากจุดแข็งของเรา และสร้างเครือข่ายจากที่มี ทั้งจากแบงก์ หรือจากกลุ่มธุรกิจใกล้เคียง แล้วตกลงเงื่อนไขให้ชัด สุดท้ายก็เดินธุรกิจคู่กันได้”
------------------
Key to Success สูตรย้ายร่างธุรกิจใหม่
-มองโอกาสและจุดตัดธุรกิจใหม่
-เชื่อมเครือข่ายที่มีจากการวมกลุ่มต่างๆ
-มองธนาคารเป็นเพื่อนร่วมทุน
-พร้อมปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจเมื่อเห็นโอกาส
-เกาะเทรนด์สุขภาพ ต้องร่วมมือทำ R&D
-มองตลาดไม่ใช่แค่ในประเทศแต่มองทั่วโลก
-ไปรษณีย์ไทยหน้าร้านต้นทุนต่ำเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ