แม่หนุ่มอาชีวะร้อง'ศรีวราห์' ลูกถูกรุมทำร้ายตาย แต่คดีไม่คืบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ในฐานะทนายความ ได้พานางดอกกฐิน บุตรพรม มารดา นายวิศรุต บุตรพรม หรือ“น้องรุ่ง” นักเรียนอาชีวะ ปวส.ปี1 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากกรณีถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย โดยพบเป็นศพบริเวณริมคูน้ำข้างถนน หมู่บ้านไผ่สี ต.สระลง อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ให้ช่วยเร่งรัดคดีและเร่งติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษ โดยมีเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับหนังสือ

นางดอกกฐิน บุตรพรม มารดาน้องรุ่ง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่17 มิถุนายน ในวันนั้น น้องรุ่งไปกินเลี้ยงงานบวชของรุ่นพี่ในหมู่บ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนก็ได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ แต่ระหว่างทางปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่นกว่า10 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามมา และทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลคล้ายอาวุธมีคมถูกฟันลึก 2 แผล บริเวณศีรษะ จนเสียชีวิต แต่พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยกระเจา ได้แจ้งกับครอบครัวว่าเป็นการเสียชีวิตตามปกติ เนื่องจากผู้ตายขับรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลงจมน้ำ

แต่ทางครอบครัวไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากถนนเส้นนี้ “น้องรุ่ง” ขับรถสัญจรไปมาเป็นประจำ มีความชำนาญทาง ประกอบกับคำบอกเล่าของเพื่อนๆ ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนรุมทำร้ายร่างกาย ตนยอมรับว่าน้องรุ่ง เคยมีปากเสียงกลุ่มวัยรุ่นหมู่บ้านอื่น ซึ่งตำรวจได้เรียกกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว 7 คน โดยส่วนตัวคิดว่าการทำคดีของตำรวจล่าช้า และเกรงว่าจะมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงได้เดินทางมาร้องเรียนกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดี

นางดอกกฐิน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด และยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้ แม้ว่าจะมีการเรียกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาสอบปากคำแล้วก็ตาม แต่ทุกคนยังคงให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ ครอบครัวยังเก็บร่างของลูกชายเอาไว้ และยังไม่ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อรอความเป็นธรรม และได้นำร่างของลูกชายส่งให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนี้ยังรอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ ทั้งนี้ได้หลักฐานเป็นภาพวงจรปิด และภาพร่องรอยบาดแผลของลูกชาย มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อประกอบการณ์พิจาณาให้เร่งรัด สั่งการคดีโดยเร็ว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจพบหลักฐานผู้กระทำความผิดทั้งหมด 7 คน เป็นเยาวชน 6 คน ส่วนอีก 1 คนที่ไม่ใช่เยาวชน เบื้องต้นได้สั่งการให้ ดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับ 1 ราย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ยืนยันว่าหากพบว่าใครผิดและเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีทั้งหมด และขอให้ทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ต้องกังวล หากพบว่ามีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินการด้วยเช่นกัน อีกทั้งต้องขอโทษครอบครัว แทนตำรวจในพื้นที่ที่ดำเนินการทางคดีล่าช้า ยืนยันว่าตำรวจจะทำหน้าที่มอบความเป็นธรรมให้กับประชาชน