สั่งลุย!'อสม.'ส่องร้านค้าชุมชน สกัดนักดื่มวัยใส-ฝ่าฝืนโดนคุก

สั่งลุย!'อสม.'ส่องร้านค้าชุมชน สกัดนักดื่มวัยใส-ฝ่าฝืนโดนคุก

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สั่งลุย มอบหมาย "อสม." ส่องร้านค้าในชุมชน สกัดนักดื่มวัยใส พร้อมคุ้มเข้มร้านค้าทำตามกฎหมายฝ่าฝืนโดนคุก

นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ โดยกรมสบส.ได้ระดมพลังอสม.1,040,000 คนทั่วประเทศ ร่วมสกัดนักดื่มวัยใสในชุมชนเน้นรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนงดเหล้าช่วงเข้าพรรษาเป็นเวลา 3 เดือนหรือทุกช่วงเทศกาลสำหรับประชาชนที่ต้องการเลิกสุรา สามารถแจ้ง อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นสร้างสุขภาพที่ดี และสอดส่องร้านค้าในชุมชนให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด

โดยห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีหากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินตามกฎหมายทันที และมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

นพ.วิศิษฎ์ กล่าวต่อว่า สบส.ได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรอบรม อสม.เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 มีเป้าหมาย72,550คน โดยอสม.จะมีบทบาทในการให้ความรู้ในการคัดกรองเพื่อค้นหาผู้ติดสุราในชุมชน แยกออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.แบบเสี่ยงต่ำ2.แบบเสี่ยง 3.แบบอันตรายและ4.แบบติด พร้อมแนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข สุขภาพแข็งแรงทั้งกายเป็นชุมชนสีขาวไร้แอลกอฮอล์

นอกจากนี้แล้วกระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำเตือนสำหรับผู้ที่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ 1.เด็กและเยาวชน อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี 2.หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร 3.ผู้ขับขี่พาหนะทุกประเภทและผู้มีอาชีพกับเครื่องจักรหนัก 4.ผู้เจ็บป่วยด้วยโรคจากการดื่มแอลกอฮอล์ และ5.ประชาชนทุกวัย เพื่อให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพลดภาวะการเกิดโรคเรื้อรังเช่นโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นต้นและเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุการทะเลาะวิวาท ทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร