Sentimental Cafe ร้านกาแฟอารมณ์ละมุน

Sentimental Cafe ร้านกาแฟอารมณ์ละมุน

ถ้าคุณกำลังมองหาร้านกาแฟที่เข้ามานั่งพักเงียบๆ คุยกับเพื่อนได้แบบไม่ต้องตะโกน เปิดเพลงแจ๊สดีๆและมีกาแฟอร่อย Sentimental Cafe อาจเป็นร้านกาแฟที่คุณตามหา

โทนสีส้มของผนังอิฐกับการจัดแสงในร้านที่ให้ความรู้สึกอุ่นๆนุ่มๆ จนแทบลืมไปเลยว่าด้านนอกหน้าต่างเป็นเวลาบ่ายที่แดดแรงเหลือใจ เซนติเมนทอล คาเฟ่ (Sentimental Cafe) ต้อนรับเราด้วยแอร์เย็นๆกับความรู้สึกราวกับเข้าไปในห้องนั่งเล่นบ้านเพื่อนที่มีเครื่องเสียงดีๆที่ช่วยทำให้เสียงดนตรีไพเราะจับใจ
กฤตภาส คูสมิทธิ์ เล่าถึงความตั้งใจแรกเริ่มว่าอยากให้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ระหว่างคนรักเครื่องเสียงวินเทจเก่าได้มาฟังเพลงเพราะๆด้วยกัน เพราะห้องรับแขกที่บ้านไม่สามารถรับรองผู้มาเยือนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นได้อย่างเต็มที่
ประกอบกับทันตแพทย์ทวีศักดิ์ อุ่นประเสริฐ นักเล่นเครื่องเสียงด้วยกันเอื้อเฟื้อในเรื่องสถานที่ ร้านกาแฟของคนรักเครื่องเสียงวินเทจจึงเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีแรงบันดาลใจจากร้านกาแฟเก่าแก่ย่านชินจูกุ ชื่อ Cafe Milestone
“เข้าไปในร้านจะมีเครื่องเสียงวินเทจอยู่ เจ้าของร้านเปิดเพลงให้เราฟัง ชงกาแฟให้เรากิน ขายเบียร์ให้เราดื่ม ทุกคนนั่งเงียบๆอ่านหนังสือ ฟังเพลงเบาๆ คนเดินเข้ามาเหนื่อยๆจากข้างนอก เจอแอร์เย็นๆที่นั่งสบายๆ ฟังเพลงแจ๊สนุ่มๆดื่มกาแฟดีๆ ผมชอบมาก”
กฤตภาส บอกกับเราถึงสไตล์ร้านกาแฟที่ตรงกับใจอันเป็นที่มาของเซนติเมนทอล คาเฟ่ ที่มีบาริสต้ารับหน้าที่ดูแลทุกอย่างในร้านตั้งแต่เรื่องของกาแฟไปจนถึงการเปิดแผ่นเสียง
เมื่อถามถึงเครื่องเสียงวินเทจของที่นี่ เจ้าของร้านอธิบายว่า “ไฮไลท์อยู่ที่ลำโพง western electric 16A ปี 1927 ใช้ในยุคหนังเงียบ หนังจะไม่มีการพากย์แต่จะเปิดเสียงเพลงคลอไปกับเนื้อเรื่อง เป็นลำโพงโมโนในสมัยโบราณ ซึ่งตัวนี้เป็นการทำขึ้นมาใหม่ โดยบริษัทเกาหลีที่ได้ลิขสิทธิ์ไป
ลำโพงตัวนี้เป็นที่หมายปองของนักเล่นเครื่องเสียงวินเทจทั่วโลก เป็นจุดดึงดูดที่ให้คนได้ฟังนอกเหนือจากเพลงที่มีความไพเราะแล้วยังมีความแปลกใหม่ของลำโพงที่มีหน้าตาที่ซึ่งหลายคนไม่เคยเห็น บรรดากูรูเครื่องเสียงมักจะแวะเวียนมาฟังเพลงที่นี่เสมอ”
ส่วนกาแฟเป็นหน้าที่ของ ชนุดม พึ่งน้อย บาริสต้าผู้ควบคุมบรรยากาศกล่าวว่า กาแฟกับดนตรีสำหรับที่นี้ใช้ศิลปะในการ improvise ไม่มีกฎตายตัว
“เราใช้เมล็ดกาแฟลาว โบโลเวนเป็นหลัก เลือกกาแฟตัวนี้ มองในเรื่องการimprovise เรื่องดนตรีคือการให้โอกาสโดยอิสระ กาแฟก็เช่นกันผมมองว่าแต่ละวันเราimprovise การด้นสด ทุกวันสภาพอากาศมีผลต่อกาแฟ แปลว่าทุกวันจะไม่ได้รสชาติกาแฟเป๊ะหรอก มีความอร่อยคนละแบบวันนี้อาจมมีรสชาติ acid มีความเป็นผลไม้มากหน่อย บางวันอาจช็อกโกแลตตี้มากหน่อยอีกวันออกถั่วมากหน่อย ขึ้นอยู่กับการเซ็ตในแต่ละวัน”
เมนูกาแฟของชนุดมมีไม่มาก และไม่หลากหลาย นั่นเป็นเพราะความตั้งใจที่ต้องการให้เกิดบทสนทนาระหว่างคนชงกับคนกิน ผลลัพธ์ คือ เมนูกาแฟหลังไมค์ที่ชงให้ต้องตามรสนิยม
ในขณะที่เมนูธรรมดาๆอย่างลาเต้เย็น เรากลับพบว่ามีความไม่ธรรมดาแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟในแก้วที่เย็นจัด รวมไปถึงน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่ละลายช้ากว่าปกติ
“คำตอบอยู่ที่น้ำแข็งร็อกไอซ์ (แบบเดียวกับที่ใส่วิสกี้)อัตราการละลายช้ากว่าปกติจะไม่ทำลายรสชาติ จะได้กินกาแฟเย็นที่ไม่แสบคอ เหมือน cold drink ไม่ใช่ ice drink มาจากส่วนผสมที่เย็น แก้วที่เย็นจะให้ความเย็นในระดับที่จะดูดครั้งเดียวหมดก็ได้ หรือค่อยๆดูดก็ได้ รอให้เย็นจัดก็ได้”
ความคิดอิสระที่แอบกวนอยู่ในทีนำไปสู่เมนู ไอ้หนุ่มรถไถ “คิดเมนูนี้ขึ้นมาล้อเลียนเอสเพรสโซ่เย็น ตอนแรกเราชงแบบเอสเพรสโซ่ทั่วไป ทำกาแฟให้กลิ่นออกมาไหม้หน่อย ใส่นมข้น พอทำไปเรารู้สึกว่า ไหนๆจะทำให้เป็นของเราแล้ว เราก็ทำส่วนผสมใหม่ไปเลยเป็นเฉพาะทางมากขึ้น
โดยการใช้น้ำตาลปี๊บมาเคี่ยวผสมกับนมผสมลงไปในกาแฟ จะได้รสหวานมันหอม เสิร์ฟคู่กับขนมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆที่เราคิดว่ามันเข้ากัน พอบอกว่าไอ้หนุ่มรถไถ นักฟังเพลงก็จะรู้ว่าเป็นเพลงของสายัณห์ สัญญา นักฟังเพลงเราเยอะ การตั้งชื่อนี้จะได้เป็นที่รู้กัน”
ชนุดม ปล่อยให้เรารื่นรมย์ไปกับไอ้หนุ่มรถไถ กาแฟเย็นแก้วแรกในรอบปี ช่างเป็นช่วงเวลาที่หวานมันและขมนิดๆ เหมือนบางช่วงของชีวิต

หมายเหตุ : Sentimental Cafe ซอยพญานาค (ข้างโรงแรมเอเชีย จากปากซอยประมาณ 60 เมตร) เปิดทุกวันเว้นวันจันทร์ 10.00-20.00 น.โทร.08 3266 4714

ภาพ : อนันต์ จันทร์สูตร์