2เดือนรวบขี่ย้อนศร-บนฟุตบาทกว่า7พันราย

2เดือนรวบขี่ย้อนศร-บนฟุตบาทกว่า7พันราย

"พล.ต.ต.จิรพัฒน์" กำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายกับรถจักรยานยนต์ ชี้ 2 เดือนรวบจยย.ขี่ย้อนศร-บนทางเท้ารวม 7,904 ราย

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า จากที่ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีคำสั่งกำชับการปฏิบัติให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจราจร เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายกับรถจักรยายนต์ เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยได้เน้นการบังคับใช้กำหมายในกรณีรถจักรยายนต์ขับขี่บนทางเท้า รถจักรยานยนต์ขี่ย้อนศร และกรณีแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทาง ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. 60 ที่ผ่านมา จึงมีคำสั่งไปยังตำรวจราจรทั้ง 88 สน. ให้ดำเนินการตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุ เพราะในพื้นที่กรุงเทพมหานครมักจะมีปัญหารถมอเตอร์ไซค์ขับขี่บนทางเท้า และย้อนศรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะสภาพการจราจรที่หนาแน่น พบว่าเส้นทางหลักที่มักจะมีคนฝ่าฝืนเป็นประจำ อาทิ ถนนสุขุมวิท ถนนวิภาวดีรังสิต

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจราจรได้ดำเนินการจับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรในข้อหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า มีสถิติการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรตั้งแต่ พ.ค.-มิ.ย.60 มีผู้กระทำความผิดในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 (บก.น.1-9) และกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) 7,904 ราย แยกตามข้อหาขับรถฝ่าฝืนทิศทางการเดินรถ (ย้อนศร) จำนวน 4,161 ราย ขับรถบนทางเท้าจำนวน 3,743 ราย โดยช่วงแรกของการจับกุม บช.น.ได้กำชับให้สน.แต่ละพื้นที่ ประชาสัมพันธ์แนวทางการบังคับใช้กฎหมายให้แก่ประชาชนทราบเบื้องต้นก่อน แต่ยังพบว่ามีผู้ฝ่าฝืน ดังนั้นจึงต้องมีการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งข้อหาดังกล่าวมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีการกวดขันกรณีแข่งรถในทาง โดยที่ผ่านมาสน.พื้นที่ ที่มักมีการแข่งรถของวัยรุ่นบ่อยครั้งจะอยู่ในพื้นที่ บก.น.3 บก.น.2 บก.น.9 ซึ่งเป็นพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานคร โดยสน.ท้องที่ก็ได้ร่วมกับกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 และฝ่ายปราบปรามของสน.พื้นที่ ร่วมกันดำเนินการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งเมื่อจับกลุ่มวัยรุ่นได้แล้วก็จะนำมาอบรมเพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำอีก