เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน 3 หลังในสวนมะพร้าว ตำรวจมึนพี่น้องให้การไม่ตรงกัน อีกทั้งไฟกระโดดข้ามหลังกลางเสียหายเล็กน้อย ขณะที่ 2 หลัง วอดหมดทั้งหลัง
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นในสวนมะพร้าวพื้นที่หมู่ 6 ตำบลนางตะเคียน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ร้อยตำรวจเอกวิชัย โคววะนิช พนักงานสอบสวน สภ.ลาดใหญ่ ได้รับแจ้งจึงเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยพันตำรวจโทชัยยันต์ ม่วงเมืองแสน หัวหน้าพนักงานสอบสวน, ร้อยตำรวจเอกมณฑล จันทร์พรม รองสารวัตรป้องกันปราบปราม, นายสมจิต จริยประเสริฐสิน นายก อบต.นางตะเคียน, นายสมพงษ์ กลั่นภักดี กำนันตำบลนางตะเคียน, นายมานิตย์ สำลีพันธ์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสมุทรสงคราม และนายกนกเดช ลิขิตวัฒเศรษฐ เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงครามนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงจำนวน 3 คันเข้าควบคุมเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 116/1 หมู่ 6 ตำบลนางตะเคียน ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและมีลมแรง อีกทั้งตัวบ้านบ้านเป็นไม้ ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำดับไฟประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามไปบ้านข้างเคียง แต่ที่อยู่ติดกันก็ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ขณะที่บ้านหลังที่ถัดไปได้ถูกไฟไหม้ภายในบ้านเสียหายทั้งหมด แต่ตัวบ้านภายนอกไม่ได้ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด สร้างความมึนงงให้เจ้าหน้าที่
นายสุรินทร์ อินทรพันธ์ อายุ 48 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนางแฉล่ม บุญปลอด อายุ 84 ปี มารดาของตนซึ่งไปถือศีลอยู่ที่วัด ก่อนเกิดเหตุตนอยู่สวนฉีดยาฆ่าหญ้า จู่ๆก็เห็นเปลวไฟลุกไหม้บ้านจึงรีบมาดูและแจ้งคนข้างบ้านช่วยเหลือ
ด้านนายอรุณ อินทรพันธ์ อายุ 40 ปี น้องชายนายสุรินทร์ บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังซ่อมโซ่จักรยานอยู่ใกล้ๆบ้าน ขณะนั้นพี่ชายปิดบ้านได้ยินเสียงโวยวายอยู่ในบ้าน จากนั้นก็เกิดไฟไหม้ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ เรื่องนี้ต้องถามพี่ชายตนเพราะเขาอยู่ในบ้านต้องรู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของพี่น้องคู่นี้ จึงตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 2 ประเด็น คือไฟฟ้าลัดวงจร และวางเพลิง ซึ่งจะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้มาตรวจสอบ และจะสอบพยานแวดล้อมเพื่อหาสาเหตุไฟไหม้ที่แท้จริงต่อไป