ชธ.แจ้งผู้ประกอบการปิโตรฯเริ่มเดินเครื่องเต็มกำลัง

ชธ.แจ้งผู้ประกอบการปิโตรฯเริ่มเดินเครื่องเต็มกำลัง

"อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ" แจ้ง 7 ผู้ประกอบการปิโตรเลียมในพื้นที่ ส.ป.ก. กลับมาดำเนินการได้ปกติ คาดลุยเต็มศักยภาพภายใน 1 เดือนนับจากนี้

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชธ.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการ 7 รายที่ถูกระงับการผลิตปิโตรเลียมที่อยู่ในพื้นที่ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แล้ว คาดผู้ประกอบการจะสามารถกลับมาผลิตปิโตรเลียมได้เต็มศักยภาพภายใน 1 เดือนนับจากนี้ ส่วนการจ่ายเงินเข้ากองทุนเพื่อการเกษตรนั้นต้องรอความชัดเจนซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ ส.ป.ก.จะกำหนดออกมาอัตราที่เหมาะสมต่อไป

โดยกรมฯ กำลังเร่งสรุปการทบทวนแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (GAS PLAN 2015) ที่ต้องนำผลกระทบจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินต้องเลื่อนออกไป รวมถึงการประมูลเพื่อสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2 แหล่งที่ล่าช้าเข้ามาคำนวณอยู่ในความเสี่ยงของแผน เพื่อประเมินความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในอนาคตได้

ขณะนี้ เตรียมให้เอกชนรายอื่นเข้ามาแข่งขันนำเข้าแอลเอ็นจีได้อย่างเสรี ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP 2015) ที่กำหนดปริมาณนำเข้าแอลเอ็นจีในช่วงปลายแผนปี 2579 ไว้ที่ 34 ล้านตัน โดยให้ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ใช้คลังของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าจากตลาดจรเพื่อทดลองระบบเป็นรายแรกประมาณ 1.3-1.5 ล้านตัน

จากปัจจุบันมี ปตท. นำเข้าจากตลาดหลักกาตาร์อยู่แล้ว 2 ล้านตัน ปิโตรนาสนำเข้า 1.2 ล้านตัน เชลล์นำเข้า 1 ล้านตัน และบีพีนำเข้า 1 ล้านตัน รวมปริมาณนำเข้าแอลเอ็นจีใช้ในประเทศจากตลาดหลักตามสัญญาซื้อขายระยะยาวประมาณ 5.2 ล้านตัน