ไม่เอาแก้โครงสร้างบอร์ด 'สปสช.' ชี้ซื้อยารวมประหยัดงบพันล้าน

นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก หรือ หมอแหยง ประธานกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สปสช. เขต 9 นครราชสีมา ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่มีมวลชนออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุติกระบวนการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ว่า ตอนนี้ประชาชนมีความเห็นต่างหลายเรื่อง เช่นคิดว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับ สปสช. และมีความพยายามจะยกเลิกหลักประกันสุขภาพ ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด แต่เป็นเรื่องของการแก้กฎหมายที่ยังคงมีปัญหา

โดย คสช. ได้ใช้ ม.44 เข้ามาบังคับใช้กับเรื่องนี้ เพื่อให้สามารถบริการประชาชนได้ดีขึ้น ซึ่งทุกคนเห็นด้วยที่จะมาแก้ไขการบริหารจัดการเพื่อให้ สปสช. ดำเนินการบริการประชาชนได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น แต่ที่กลายเป็นปัญหาถกเถียงกันมากก็คือ การเข้าไปแก้องค์ประกอบของบอร์ด สปสช. ที่ต้องการเพิ่มตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปอีก 4 คน ทำให้สัดส่วนของหน่วยงานอื่นลดลง ซึ่งเกินกว่าขอบเขตที่รัฐบาลใช้ ม.44 สั่งให้ดำเนินการ ถ้าสัดส่วนของฝ่ายบริการมากขึ้นก็จะทำให้เสียสมดุลของหลักความเป็นธรรมได้ ซึ่งตนก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ดังนั้นก็ขอให้คงไว้ซึ่งสัดส่วนเดิมดีกว่า

ประเด็นต่อมา คือเรื่องการแยกเงินเดือนออกจากงบเหมาจ่าย ซึ่งเดิมถือว่าเป็นกฎหมายที่มีความเป็นธรรมตามหลักการกระจายอำนาจมากที่สุด ตนอยากให้ยังคงหลักการเดิมไว้ แล้วไปแก้ไขเฉพาะจังหวัดที่มีปัญหา และประเด็นสุดท้าย คือการให้ สปสช. มีอำนาจจัดซื้อยาเอง ตนในฐานะที่เคยเป็นสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ที่ดูแล 28 โรงพยาบาล 400 สถานีอนามัย ถ้าซื้อยารวมสามารถประหยัดงบประมาณได้ 30-40% ดังนั้นถ้าทำได้ในระดับประเทศ จะสามารถประหยัดงบประมาณของชาติได้นับพันล้านบาทเลยทีเดียว