กสทช.เคาะราคาเน็ตชายขอบ50บาทต่อเดือน

กสทช.เคาะราคาเน็ตชายขอบ50บาทต่อเดือน

กสทช.กำหนด ‘ราคาเน็ตชายขอบ’ ให้ประชาชนใช้งาน 50 บาท ต่อ 10 เมกต่อเดือน ยันค่าบริการต้องถูกกว่าท้องตลาดเผย ‘เอกชน’ ที่ชนะประมูลจ่อลงนามเดือน ส.ค. 60 เริ่มทยอยเปิดให้บริการ 400 หมู่บ้านภายในสิ้นปี มั่นใจครบทั้ง 3,920 หมู่บ้าน เดือน ก.ค. 2561

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.ได้เปิดขายซองประกวดราคาโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือและบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 20-29 มิ.ย.2560 จากนั้นผู้ที่สนใจสามารถยื่นซองประกวดราคาวันที่ 17 ก.ค.2560 และวันที่ 1 ส.ค. 2560 ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีอ็อคชั่น โดยอาศัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2543 เพื่อให้การดำเนินโครงการมีค่าใช้จ่ายที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน 

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้เดือน ส.ค. 2560 เริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2560 ไม่น้อยกว่า 15% ของหมู่บ้านเป้าหมาย คือ จำนวน 400 หมู่บ้าน และจะให้บริการครบทั้ง 3,920 หมู่บ้านภายในเดือน ก.ค.2561

โดยผู้ที่ชนะประมูลต้องมีแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตราคาถูกให้ประชาชน ที่ต้องการต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าบ้านของตัวเองด้วยในราคาแพ็กเกจ 50-100 บาท กสทช.กำหนดราคาไว้ 3 แพ็กเกจ ได้แก่ 1. USO แพ็กเกจ รุ่นจิ๋ว ความเร็ว 10 เมกะบิต ราคาไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน 2. USO แพ็กเกจ รุ่นเล็ก ความเร็ว 15 เมกะบิต ราคาไม่เกิน 150 บาทต่อเดือน และ 3. USO แพ็กเกจ รุ่นกลาง ความเร็ว 20 เมกะบิต ราคาไม่เกิน 200 บาทต่อเดือน

“ต้องการให้ประชาชนใช้งานอินเทอร์เน็ตราคาถูกกว่าราคาท้องตลาดที่ 590 บาทต่อเดือนให้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้เกิด เนื่องจาก กสทช.ได้ลงทุนในหมู่บ้านให้แล้ว หากประชาชนที่ต้องการใช้งานที่บ้านก็ต้องได้ราคาที่ถูกกว่า ส่วนความคืบหน้าเน็ตประชารัฐ ที่ทำร่วมกับกระทรวงดีอีนั้นยังอยู่ระหว่างการให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สำรวจข้อมูล คาดว่า ภายในเดือน ก.ย.-ต.ค. น่าจะได้ราคากลาง”

สำหรับโครงการนี้ใช้งบประมาณดำเนินงาน 13,614.62 ล้านบาท เพื่อให้มีการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในพื้นที่เป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมาก 3,920 หมู่บ้าน แบ่งเป็น 5 พื้นที่ดำเนินการ ได้แก่ 1.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด จำนวน 1,013 หมู่บ้าน 2.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด จำนวน 1,014 หมู่บ้าน 3.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด จำนวน 1,085 หมู่บ้าน 4.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคกลางและภาคใต้ 24 จังหวัด จำนวน 752 หมู่บ้าน และ 5.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) จำนวน 56 หมู่บ้าน

โดยเมื่อโครงการดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชายขอบ จะได้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะติดตั้งจุดกระจายสัญญาณรวมทั้งสิ้น 4,916 จุด รวมถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่มีความเร็วไม่น้อยกว่า 30 เมกะบิต โดยการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะเชื่อมต่อโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fiber Optic Cable) ไปยังหมู่บ้านเป้าหมาย ระยะทางประมาณ 8,500 กิโลเมตร รวมถึงมีการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ USO Free WiFi ประชารัฐ ให้บริการฟรีในทุกหมู่บ้านเป้าหมาย จำนวน 5,229 จุด และมีการสร้างศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Net) พร้อมผู้ดูแลศูนย์แห่งละ 1 คน เปิดให้บริการฟรีจำนวน 763 แห่ง แต่ละศูนย์สามารถรองรับการเข้าถึงและการใช้งานของประชาชนจาก 2-4 หมู่บ้าน 

นอกจากนั้น โครงการนี้ยังจะเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังหน่วยงานของรัฐ 1,317 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียน 1,210 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลอีก 107 แห่ง ให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตใช้ฟรีตลอดระยะเวลา 5 ปี ทั้งหมดนี้สำนักงาน กสทช. จะสนับสนุนงบประมาณ 13,000 ล้านบาท ในการดำเนินงานให้บริการและบำรุงรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี อีกด้วย