แม่ของเด็กชายวัย 8 ขวบ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีที่ลูกชายถูกเพื่อนปิดประตูห้องน้ำโดนปลายนิ้วขาด แล้วทางโรงเรียนไม่สนใจ
ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ วังคีรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจาก น.ส.ศิริมาส เพ็งระกา อายุ35ปี พักอยู่คอนโดริเวอร์ไซด์ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง เป็นครูอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง และนายจตุพร ผาสุข อายุ37ปี สามี และเป็นพ่อเด็ก บอกว่าตนได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง แจ้ว่า ด.ช.ธนกฤต (น้องยีนส์) โอรักษ์ อายุ8ปี บุตรชายเรียนอยู่ชั้น ป.3 เกิดอุบัติเหตุระหว่างเข้าห้องน้ำของโรงเรียน ถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนปิดประตูห้องน้ำหนีบปลายนิ้วนางด้านซ้ายของบุตรชายขาดกระเด็น แล้วนำตัวส่งรพ.จุฬารัตน์รวมแพทย์ จึงได้ไปที่โรงพยาบาลพบว่าแพทย์ได้ทำแผลเรียบร้อยแล้ว และนิ้วที่ขาดไปทางโรงเรียนไม่ได้นำมาให้แพทย์ต่อด้วย แต่ที่ตนมาแจ้งความเพราะติดใจว่าทำไมขณะเกิดเหตุไม่มีรถยนต์หรือรถพยาบาลมาส่งบุตรชายเลย ทางโรงเรียนกลับให้ภารโรงของโรงเรียนขับขี่ รถจยย.มาส่งเองถ้าเกิดอุบัติเหตุซ้ำสองจะทำอย่างไร และขณะที่นำตัวบุตรชายส่ง รพ.ทำไมไม่นำชิ้นเนื้อ(นิ้ว)ที่ขาดหลุดมาให้ทางแพทย์ทำการต่อด้วย
โดย น.ส.ศิริมาส แม่ของเด็กต้องการให้ทางโรงเรียนมีการรับผิดชอบบ้าง ตนรู้สึกสงสารลูก และต่อมา ทางครูได้ไปเปิดดูประตูห้องน้ำของโรงเรียนพบชิ้นส่วนนิ้วได้นำชิ้นส่วนเนื้อที่ขาดเอามาให้แต่ทางแพทย์ไม่สามารถต่อชิ้นส่วนได้เนื่องจากเป็นเวลานานเนื้อเซลล์ได้ตายไปแล้ว
ล่าสุดวันนี้เมื่อเวลา 08.00 น. น.ส.เสาวลักษณ์ มงคลโชติ ครูประจำชั้นพร้อมของรอง ผอ.โรงเรียน ได้มาเยี่ยมบุตรชายและบอกว่าทางโรงเรียนจะช่วยเหลือเด็ก 10,000 บาท ซึ่งค่ารักษาทั้งหมดอยู่ที่ 40,000 บาท ที่เหลือต้องใช้ประกันของแม่เข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยทางแพทย์บอกว่าแนวทางการรักษานั้นต้องตัดเนื้อที่ใต้ท้องนิ้วเอามาแปะส่วนของนิ้วที่ขาดหายไป วันนี้ให้กลับบ้านได้ และต้องมาล้างแผลทุกๆ วัน และอีก 1 สัปดาห์ต้องมีการเอ็กซเรย์อีกครั้งหนึ่ง ในส่วนค่าใช้จ่ายที่ต้องล้างแผลทุก ๆ วันจะใช้เงินประกันของโรงเรียน
แม่กล่าวทั้งน้ำตาและอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกๆ คนว่าถ้าเกิดเหตุแบบนี้ไม่ควรที่จะให้เด็กนั่งซ้อนท้าย รถจยย.มาส่ง รพ.เอง และในส่วนของทางโรงเรียนนั้นทางแม่จะไม่เข้าไปพูดคุย ซึ่งทางโรงเรียนจะต้องมาคุยกับครอบครัวของเด็กเอง