‘เอ็มบีเค’ชู‘แม็กเน็ตมาร์เก็ต’โปรโมทผลไม้ไทยดึงทัวริสต์

‘เอ็มบีเค’ชู‘แม็กเน็ตมาร์เก็ต’โปรโมทผลไม้ไทยดึงทัวริสต์

ความได้เปรียบของศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองแหล่งรวมผู้คนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังถูก “ต่อยอด” สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจและเศรษฐกิจไทยมากขึ้น  

สาธิต สายศร รองกรรมการผู้อำนวยการสายปฏิบัติการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์  กล่าวว่า  เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยและใช้บริการสูง 14 ล้านในปีที่ผ่านมา 

นับเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ และประเทศไทย ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นแหล่งชอปปิง หรือท่องเที่ยว แต่มีบทบาทและศักยภาพสูงในการเชื่อมโยงกลุ่มลูกค้า สินค้าและบริการ โดยเฉพาะเป็นเวทีแจ้งเกิดหรือผลักดัน “สินค้าไทย” สู่สายตาชาวโลกผ่าน “นักท่องเที่ยวต่างชาติ”  ล่าสุด เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ยังได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 10 ศูนย์การค้าในประเทศไทยที่ครองใจนักท่องเที่ยวชาวจีนสูงสุด การันตีความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว

ด้วยทำเลยุทธศาสตร์ของเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ รวมทั้งบรรดาศูนย์การค้าใจกลางเมือง เป็นเสมือนวินโดว์ดิสเพลย์ของ “แบรนด์” สู่สายตาลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้เกิดความร่วมมือในการทำตลาดระหว่างเอกชนกับเอกชน หรือเอกชนกับภาครัฐ มากขึ้น ล่าสุด เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ จัดเทศกาลบุฟเฟต่ต์ทุเรียนและผลไม้สดนานาชนิด “King Fruits Paradise of Thailand : Durian Festival @ Bangkok” วันที่ 17-29 มิ.ย.นี้  ในบรรยากาศสวนกลางกรุง บนพื้นที่กว่า 2,400 ตร.ม.  พร้อมอาหารคาว-หวาน ราคา 399 บาทต่อคน ในเวลา 60 นาที เปิดให้บริการ 5 รอบต่อวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-21.00 น.

"เป็นโอกาสดีที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับผลไม้ตามฤดูกาลที่ขึ้นชื่อของไทยสดใหม่ส่งตรงจากสวนทั่วประเทศ ขณะที่ลูกค้าชาวไทยก็สามารถช่วยกันอุดหนุนผลผลิตที่ปลูกและคัดสรรโดยเกษตรกรของไทยโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง”

ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลที่เน้นให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ผ่านการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน หรือเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) โดยมีกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เชื่อมโยงผลผลิตจากเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ค้า ที่ต้องการกระจายสินค้าออกสู่ตลาดผ่าน “ตลาดเฉพาะสินค้า” หรือ  แม็กเน็ต มาร์เก็ต (Magnet Market) ดึงดูดผู้บริโภคที่มีความต้องการผลผลิตคุณภาพตามฤดูกาล ส่งเสริมกำลังการซื้อ-ขายภายในประเทศ ทั้งยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม

ภายในงาน มีพื้นที่จัดแสดงและขายผลไม้ของดีประจำจังหวัด อาทิ สุดยอดทุเรียนจากภาคตะวันออก ทุเรียนหลิน-หลงลับแล พันธุ์หายาก จ.อุตรดิตถ์ ส้มโอทับทิมสยาม จ.นครศรีธรรมราช รวมถึงผลไม้แปรรูปนานาชนิด คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 5 แสนคน เงินสะพัดกว่า 140 ล้านบาท

การจัดเทศกาลบุฟเฟ่ต์ทุเรียน ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญที่ช่วยระบายสินค้าให้เกษตรกรและผู้ประกอบการจากทั่วประเทศ”

อีเวนท์ดังกล่าว สร้างแรงกระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทย โดยมีหัวเรือใหญ่ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าทำกิจกรรมร่วมกับ “ผู้ประกอบการศูนย์การค้า” ทั้งในกรุงเทพฯ  และต่างจังหวัด ผ่านโปรเจค “แม็กเน็ต มาร์เก็ต” ที่มี เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ นำร่อง 

สำหรับ “แม็กเน็ต มาร์เก็ต” วางเป้าหมายแจ้งเกิดแหล่งท่องเที่ยวหลักทั่วประเทศ 6 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี สงขลา จันทบุรี และกรุงเทพฯ ภายในปีนี้  ขณะนี้เปิดแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และกรุงเทพฯ

การสร้างรูปแบบการกระจายสินค้าที่มีลักษณะโดดเด่น กระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อสูง เป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงภาคการเกษตร การผลิต และการท่องเที่ยว ภายใต้กลยุทธ์การเชื่อมโยงผลผลิตถึงตลาดผู้บริโภคโดยตรง นับเป็นช่องทางการระบายสินค้าให้กับเกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่ม การตลาด และการจำหน่ายได้มีศักยภาพ