แจงคง30บ.รักษาทุกโรค แก้กม.ปิดช่องเงินเหลือให้NGO

แจงคง30บ.รักษาทุกโรค แก้กม.ปิดช่องเงินเหลือให้NGO

รมว.สาธารณสุข ชี้แจง "ครม." ย้ำแก้กม.บัตรทองไม่ริดลอนสิทธิ "30บาทรักษาทุกโรค" เผยหวังปิดช่องเงินเหลือจากซื้อยา ไม่ให้ตกถึงมือ "เอ็นจีโอ"

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการให้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงประเด็นปัญหาการทำประชาพิจารณ์การแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้ ครม.รับทราบ เนื่องจากมีความพยายามจะล้มการทำประชาพิจารณ์การแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวที่จัดขึ้น 4 ครั้ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

โดย นพ.ปิยะสกล ได้ชี้แจงว่าการแก้ไขกฎหมายไม่มีการลิดรอนสิทธิของประชาชนแต่อย่างใด พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้ นพ.ปิยะสกล ลงไปทำความเข้าใจกับประชาชน โดยอธิบายความแตกต่างของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฉบับ พ.ศ.2545 และฉบับแก้ไข

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะจัดเวทีเสวนาให้ความรู้ ตีแผ่ความแตกต่างของร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดิมและฉบับใหม่ใน 14 ประเด็น พร้อมเชิญให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ประชาชนและสื่อมวลชนทุกสำนักเข้ารับฟัง ในเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มิ.ย.นี้ ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ เพื่อจะได้ทราบว่า ถ้าหากประชาชนไม่สูญเสียสิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การพยายามล้มประชาพิจารณ์มาจากสาเหตุใด

"นพ.ปิยะสกล ยืนยันว่า การแก้ไขกฎหมาย ยังมีสิทธิบัตรทองหรือ 30 บาทรักษาทุกโรคมีเหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีการลิดรอนสิทธิในการรักษาของประชาชนเลย เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. ที่เปลี่ยนแปลงไปคือการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการจัดซื้อยา อันเป็นหน้าที่เดิมของสำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เดิมเมื่อมีการตกลงซื้อขายยากันในปริมาณมาก ก็จะได้รับส่วนลด และกันเงินที่เหลือจากส่วนลดมอบให้กับ NGO ไปทำภารกิจขององค์กร แม้ตามกฎหมายฉบับเดิมไม่ได้มีระบุไว้ว่า สามารถมอบเงินส่วนนี้ให้ NGO ได้ แต่มีการกระทำลักษณะนี้มายาวนาน ในรัฐบาลนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีนโยบายว่า การใช้เงินต้องทำตามวัตถุประสงค์ของเงินนั้น เงินสำหรับซื้อยาเพื่อดูแลประชาชนก็ต้องซื้อยา ไม่ใช่นำไปใช้ในลักษณะอื่น” พล.ท.สรรเสริญกล่าว